“กมธ.แก้ปัญหาหมู” ต่ออายุศึกษาราคาหมูเพิ่ม 3 เดือน จ่อลงพื้นที่โรงเชือด-ห้องเย็น-โรงงานอาหารสัตว์ หาต้นเหตุ
ข่าววันนี้ เมื่อเวลา 12.10 น. วันที่ 18 พฤษภาคม ที่รัฐสภา นายวีระกร คำประกอบ ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาปัญหาการแพร่ระบาดของโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร และศึกษาแนวทางช่วยเหลือประชาชน จากปัญหาราคาสินค้าอุปโภค บริโภค ปรับตัวสูงขึ้น สภาผู้แทนราษฎร แถลงว่า เนื่องจากราคาหมูพุ่งสูงขึ้น กมธ.จึงมีมติต่ออายุ กมธ.ไปอีก 3 เดือน เพราะเห็นว่าหากเราอยู่เราสามารถเข้าไปศึกษาและควบคุมเรื่องราคาหมูได้ หากเราหมดวาระไปในเวลาที่เหลือหมูจะขึ้นราคาอีกหรือไม่ ซึ่งในช่วงสมัยที่สภาฯ กำลังจะเปิด โดยตั้งแต่วันที่ 23 พฤษภาคม เราจะออกตรวจทั้งโรงเชือด ห้องเย็น และโรงงานอาหารสัตว์ แม้จะรู้ว่าต้นทุนอาหารสัตว์สูงขึ้น จึงมีผู้เสนอใช้สูตรปลาป่นเข้ามา เนื่องจากมีการบริโภคหมูในประเทศถึง 90% ฉะนั้น การใช้สูตรปลาป่นเข้ามาจะช่วยเรื่องราคาอาหารหมูแพง
นายวีระกร กล่าวว่า ในขณะนี้นายประภัตร โพธสุธน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานกมธ. แจ้งว่าประเทศเมียนมา เสนอขายปลาป่นให้ในราคาถูกเพียง 30 กว่าบาทต่อกิโลกรัม โดยเราก็จะดูว่าจะทำอย่างไรให้อาหารสัตว์มีราคาลดลง เพื่อต้นทุนการเลี้งหมูจะได้ลดลง ซึ่งเราจะดูทุกขั้นตอนรวมถึงเรื่องเชื้อโรค โดยเราจะไปตรวจเนื้อที่ขายตามท้องตลาดว่ามีเชื้อปะปนหรือไม่ ซึ่งกมธ.ไม่ได้นิ่งนอนใจ อีกทั้งได้รับการร้องเรียนจากฟาร์มหมูขนาดใหญ่ ที่ระบุว่าในขณะนี้ลูกหมูมีราคาสูงขึ้นมาก เนื่องจากเกิดโรคระบาด เดิมที 16 กิโลกรัม ราคาเพียง 1,600 บาท วันนี้เพิ่มเป็น 4,000 บาท ซึ่งเราจะไปดูทุกขั้นตอนว่าขึ้นอะไร อย่างไร ขณะนี้กมธ.ได้นำเรื่องที่พิจารณาเสร็จแล้ว นำมาพิจารณาใหม่ทั้งหมด เพื่อตรวจสอบเหตุผลต่างๆ ที่ทำให้หมูขึ้นราคา และจะได้แก้รวบรวมปัญหาส่งให้รัฐบาลแก้ปัญหาต่อไป
นายวีระกร กล่าวต่อว่า ขอฝากไปยังโรงเชือดต่างๆ ว่า ปกติท่านใช้สูตรซื้อหมูเป็นหน้าราคาในราคา 114-120 บาทคูณ 2 และบวกอีก 2 บาท ซึ่งจะเป็นราคาหมูที่ขายจริง แต่ขณะนี้ราคาหมูสูงขึ้น ท่านจะไปคูณ 2 ไม่ได้แล้ว ขอให้โรงเชือดอย่าเอาเปรียบประชาชน ทั้งนี้ กมธ.จะตรวจสอบว่าจะทำอย่างไรให้ ราคาหมูที่ประชาชนบริโภค ลดลงให้เร็วที่สุด