ผบ.ตร.เผยใช้แก๊สน้ำตา - กระสุนยางควบคุมมวลชนกัมพูชา เป็นไปตามหลักสากล

พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 17 ก.ย. 2568 พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้รับรายงานเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย - กัมพูชา บริเวณจุดปฏิบัติการที่ 34 กองร้อยทหารพรานที่ 1301 บ้านหนองหญ้าแก้ว ตำบลโคกสูง อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว

เวลา 14.30 น. หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 12 ร่วมกับชุดควบคุมฝูงชนจังหวัดสระแก้ว ฝ่ายปกครองอำเภอโคกสูง กองร้อยทหารพราน 1301 และตำรวจตระเวนชายแดน ได้ลงพื้นที่ติดตั้งลวดหนามหีบเพลงเพื่อเสริมความมั่นคง แต่ในเวลา 15.00 น. มีประชาชนชาวกัมพูชาราว 200 คน เข้ามาขัดขวางและพยายามรื้อถอนลวดหนาม ทำให้เกิดความตึงเครียด

ต่อมาเวลา 16.00 น. กลุ่มผู้ชุมนุมกัมพูชาปาสิ่งของ เช่น ก้อนหินและท่อนไม้ ใส่เจ้าหน้าที่ฝ่ายไทย เจ้าหน้าที่จึงใช้แก๊สน้ำตาและกระสุนยางผลักดันให้ถอยออกไป และในเวลา 17.00 น. ได้เสริมแนวป้องกันเพิ่มเติมด้วยลวดหนามหีบเพลงและยางรถยนต์ พร้อมควบคุมสถานการณ์ด้วยแก๊สน้ำตา กระสุนยาง และเครื่อง LRAD

จากเหตุการณ์นี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจไทยได้รับบาดเจ็บ 4 นาย ได้แก่

1.พ.ต.ท.สมัชญ์ นาคพน รอง ผกก.สืบสวน สภ.คลองลึก

2.ด.ต.แสงอรุณ ศรีวงศ์จันทร์ ผบ.หมู่ฝ่ายปราบปราม สภ.คลองลึก

3.ด.ต.ศักดิ์สิทธิ์ นพเกล้า ผบ.หมู่ กก.สืบสวนสอบสวน ภ.จว.สระแก้ว

4.จ.ส.ต.ชยันต์ เบ้าทอง ผบ.หมู่ฝ่ายปราบปราม สภ.อรัญประเทศ

โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติระบุว่า ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้แสดงความห่วงใยต่อกำลังพลที่บาดเจ็บและเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่ พร้อมสั่งการให้ผู้บังคับบัญชาดูแลสิทธิและสวัสดิการอย่างเต็มที่ พร้อมย้ำว่าการควบคุมสถานการณ์ดังกล่าวเป็นไปตามหลักสากล เน้นการผลักดันเพื่อป้องกันเหตุรุนแรง โดยถือว่ากลุ่มผู้ชุมนุมกัมพูชามีการรุกล้ำเข้ามาในเขตไทย ขัดขวางภารกิจของเจ้าหน้าที่และทำลายทรัพย์สิน ซึ่งถือเป็นการกระทำผิดกฎหมายของประเทศไทย