รีเซต

“สิระ” ควงภรรยาทำบุญวันเกิด พบปะปชช. เตรียม ฟ้อง กก. 50 ล้าน หลังนำภาพไปตัดต่อ

“สิระ” ควงภรรยาทำบุญวันเกิด พบปะปชช. เตรียม ฟ้อง กก. 50 ล้าน หลังนำภาพไปตัดต่อ
มติชน
5 มกราคม 2565 ( 10:17 )
68
“สิระ” ควงภรรยาทำบุญวันเกิด พบปะปชช. เตรียม ฟ้อง กก. 50 ล้าน หลังนำภาพไปตัดต่อ

“สิระ” ควงภรรยาทำบุญวันเกิด พบปะปชช. เตรียม ฟ้อง กก. 50 ล้าน หลังนำภาพไปตัดต่อ แซว พอมาสมัครส.ส.ไหว้สวยเชียว

 

เมื่อวันที่ 5 มกราคม ที่ตลาดเคหะทุ่งสองห้อง นายสิระ เจนจาคะ อดีต ส.ส.กทม. เขต 9 พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) และ นางสรัลรัศมิ์ เจนจาคะ ภรรยา ว่าที่ผู้สมัครเลือกต้ังซ่อม ส.ส.กทม.เขต 9 (เขตหลักสี่) พรรคพปชร. ได้ลงพื้นที่พบปะประชาชน พร้อมร่วมทำบุญตักบาตรเนื่องในวันคล้ายวันเกิดนายสิระ ครบ 58 ปี

 

 

จากนั้นนายสิระ กล่าวอวยพรว่า วันนี้อายุ 58 ปี ขอขวัญกำลังใจเพื่อเป็นของขวัญวันเกิด โดยขอให้เลือกผู้แทนราษฎรที่จะมาทำหน้าที่แทนตน มาดูแลประชาชนแทนตนยืนยันว่า นางสรัลรัศมิ์ เป็นคนที่อยู่ในพื้นที่คอยดูแลพวกเรามาโดยตลอด ดึกดื่นอย่างไร มีปัญหาอะไร ให้โทรหามาดามหลี จะจัดการให้ทุกเรื่อง ยังฝากถึงผู้สมัคร ส.ส.เขตหลักสี่ในการเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ โดยขอให้หาเสียงอย่างสุจริต อย่าโจมตีกัน และขอให้เป็นสุภาพบุรุษ ขอให้สู้กับผู้หญิงคนนี้ด้วยเกียรติลูกผู้ชาย อย่าทำร้ายกันและอย่าใช้วิธีสกปรก อย่าดึงอย่างอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องเข้ามาร่วมด้วย ทั้งนี้ การจะมาเป็นผู้แทนราษฎรต้องมีเกียรติ มีศักดิ์ศรี ไม่ใช่เอาเรื่องอื่นมาโจมตีคู่ต่อสู้ แบบนี้ถือว่าไม่เป็นลูกผู้ชาย

 

 

นายสิระ กล่าวว่า บางคนในภาพไหว้สวยก้มกราบ แต่ในเฟซบุ๊กบอกอย่าก้มกราบ อย่าไหว้สวย นั่นเป็นการเล่นละครตบตา หลอกลวงประชาชนหรือไม่ และให้ประชาชนคิดดูว่า ที่ผ่านมาบุคคลเหล่านั้นต่อต้านการก้มกราบไหว้สวย ตอนนี้มีนักแสดงคนหนึ่ง ก็ก้มกราบไหว้สวย แล้วมาโจมตีตน ให้ดูว่าประชาชนจะเลือกคนไหว้สวยหรือเลือกคนทำงาน

 

 

ต่อมานายสิระ และนางสรัลรัศมิ์ ได้เดินพบปะกับชาวตลาดเคหะทุ่งสองห้อง จากนั้นนางสรัลรัศมิ์ได้ให้สัมภาษณ์ถึงกลยุทธ์ในการเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ ว่า จากการลงพื้นที่ทำงานอย่างต่อเนื่องและเข้าถึงประชาชนตลอด 3 ปีที่ผ่านมา ถือว่าเข้าถึงประชาชนได้เยอะมาก เราอยู่เคียงข้างประชาชนทั้งยามทุกข์และสุขมาโดยตลอด กลยุทธ์ก็คือประชาชนสามารถพึ่งพาเราและเข้าถึงเราได้ง่าย มีการตอบสนองข้อเรียกร้องของประชาชนอย่างรวดเร็ว

 

 

เมื่อถามว่ากดดันหรือไม่เพราะพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพปชร.ได้ประกาศแล้วว่าเลือกตั้งซ่อมทั้ง 3 เขตต้องได้รับชัยชนะ นางสรัลรัศมิ์ กล่าวว่า ไม่มีความกดดันอะไร เพราะพรรคการเมืองอื่นเพิ่งเริ่มหาเสียง แต่ของเราหาเสียงล่วงหน้ามา 3 ปีแล้ว ฉะนั้นความได้เปรียบอยู่ที่เราอยู่แล้ว

 

 

ผู้สื่อข่าวถามว่าจากการลงพื้นที่ได้รับเสียงสะท้องอย่างไรจากประชาชน นางสรัลรัศมิ์ กล่าวว่า ตอนนี้ด้วยสถานการณ์โควิด-19 ได้รับการแก้ไขเรื่องการได้รับวัคซีนและการเข้าถึงโรงพยาบาลแล้ว ตอนนี้ไม่ค่อยมีปัญหาอะไรแล้ว แต่ที่ต้องรีบแก้ไขเรื่องปัญหาปากท้องความเป็นอยู่ของประชาชน ซึ่งรัฐบาลก็ได้มีมาตรการเกี่ยวกับปากท้องมาบางส่วนแล้ว ส่วนของส.ส.เขตก็มาเต็มเติมในสิ่งที่ประชาชนยังขาดและต้องการเร่งด่วนในพื้นที่

 

 

เมื่อถามว่านายสิระได้ฝากงานการเมืองอะไรไว้บ้างเพื่อให้สานต่อ นางสรัลรัศมิ์ กล่าวว่า สานต่อในสิ่งที่นายสิระได้ทำไว้ดีอยู่แล้ว อย่างงานในสภาฯก็จะเข้าไปทำหน้าที่ปกป้องรัฐบาลและเป็นปากเป็นเสียงให้กับพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้เข้าถึงประชาชนมากขึ้น

 

ด้านนายสิระ กล่าวว่า การที่ส่งนางสรัลรัศมิ์ เพราะพรรคได้มีการสรรหาผู้สมัครใหม่และพรรคได้เห็นความเหมาะสมว่านางสรัลรัศมิ์เป็นคนที่อยู่ในพื้นที่ เกาะติดประชาชนมาโดยตลอด ส่วนผลงานก็มีในทุกมิติ ดังนั้นถึงบอกว่าคนที่จะมาสมัครและเคยบอกว่าเป็นอดีตส.ส.ที่ผ่านมาเวลาลงพื้นที่ให้ดูว่ามีการเปลี่ยนแปลงอะไรหรือไม่ตลอดมา 3 ปี ทุกมิติไหม ยืนยันว่านางสรัลรัศมิ์เป็นคนที่มีคุณภาพคับแก้ว คนนี้แซ่บจริงๆ

 

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีความในใจอะไรที่อยากจะพูดในวันเกิดปีนี้หรือไม่ นายสิระ กล่าวว่า ระยะเวลาของรัฐสภาและรัฐบาลที่เหลือปีกว่า ตอนนี้วิกฤตโควิดหรือวิกฤตปากท้องที่กำลังจะเข้ามา คนที่จะดูแลประชาชนเราขอเป็นส.ส.เขต เราจะสะท้อนปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนเข้าสู่สภาฯ รวมถึงเรื่อวที่ประชาชนไม่ได้รับความยุติธรรม นางสรัลรัศมิ์ ก็ได้ดูอยู่ พร้อมทำงานต่อได้เลย ซึ่งได้เปรียบตรงนี้

 

เมื่อถามว่าในวันที่ 6 มกราคม มีการถือเคล็ดอะไรหรือไม่ก่อนที่จะไปลงสมัครเลือกตั้งซ่อม นายสิระ กล่าวว่า ในวันที่ 6 มกราคม ประชาชนเขตหลักสี่และจตุจักร จะพานางสรัลรัศมิ์ เดินไปสมัคร

 

เมื่อถามว่าจะมีการเปิดปราศรัยโดยจะขอให้ผู้ใหญ่ในพรรคมาหรือไม่ นายสิระ กล่าวว่า รอกราบเรียนหัวหน้าพรรค ซึ่งหลังลงสมัครในวันที่ 6 มกราคม จะเข้าไปพบหัวหน้าพรรค

 

ผู้สื่อข่าวถามว่าหลังจากพ้นตำแหน่งส.ส.ชีวิตทางการเมืองหลังจากนี้ได้วางอะไรไว้บ้าง นายสิระ กล่าวว่า ก็สบายๆ ก่อนหน้านี้ตนก็ช่วยเหลือประชาชน ในการต่อสู้เรื่องความยุติธรรมมาโดยตลอด หลังจากนี้ก็จะใช้ตู้ปณ.9999 ที่เปิดไว้เพื่อรับเรื่องร้องเรียนตนก็จะช่วยเหลือประชาชนต่อไปและรวบรวมทีมกฎหมายเอาไว้ต่อสู้ให้กับชาวบ้านทั้งคนหลักสี่และทั้งประเทศเหมือนเดิม โดยตอนนี้กำลังจะพิจารณาว่าจะตั้งเป็นมูลนิธิหรือชมรม ยืนยันว่าพร้อมทำงานการเมืองต่อ ตอนแรกก็คิดอยู่ 2 อย่าง คือ หยุดเรื่องของบ้านเมืองเรื่องของประชาชนไปเที่ยวรอบโลกดีไหม แต่นางสรัลรัศมิ์ บอกว่าทิ้งประชาชนไม่ได้ ทิ้งคนหลักสี่ไม่ได้ เวลาที่เกิดวิกฤตและประชาชนนึกถึงเราโทรหาเราเพียงผู้เดียว ทิ้งเขาไปจะเกิดอะไรขึ้น สิ่งที่เราทำมาจะเสียเปล่าหรือไม่ เราจึงขอทำงานเพื่อประชาชนต่อไป

เมื่อถามถึงการต่อสู้คดีที่ต้องชดใช้ค่าเสียหาย นายสิระ กล่าวว่า กำลังคัดคำวินิจฉัยกลางเพื่อดูว่าจะต้องทำอะไรบ้าง โดยตรงนี้ทนายจะเข้าไปดูแลซึ่งตนพร้อมทุกอย่าง ประวัติของตนเรื่องของการคืนเงินในช่วงที่เป็นสภาปฏิรูปแห่งชาติ ทั้งที่ตอนนั้นไม่จำเป็นต้องคืนเงินด้วย แต่ตนเห็นว่าเมื่อเขาจ้างเราไปร่างรัฐธรรมนูญและมาคว่ำเองฉีกเอง คิดว่าจิตใต้สำนึกของตนไม่ควรจะมารับเงินภาษีของประชาชน ส่วนเรื่องของการคืนเงินสภาฯตนยังไม่เห็นลายลักษณ์อักษรต้องขอดู

ผู้สื่อข่าวถามว่าในวันเกิดขอพรอะไร นายสิระ กล่าวว่า ขอให้บ้านเมืองสงบสุขผ่านพ้นโควิดไปด้วยกัน

ทั้งนี้นายสิระกล่าวกรณีพรรคก้าวไกลนำรูปของตัวเองไปตัดต่อในลักษณะล้อเรียน คู่กับภาพของนายกรุณพล เทียนสุวรรณ ผู้สมัครเลือกตั้งเขตจตุจักร-หลักสี่ พร้อมกับเขียนข้อความว่า “ตามหาอาสาสมัครช่วยเพชร การุณพลหาเสียง – จับโกงเลือกตั้งไม่จำกัดเพศ วัย ขอแค่ใจรักประชาธิปไตยก็พอ” ว่า คนเอารูปตนมาโจมตี ตนก็จะฟ้องพรรค 50 ล้าน ขอให้เป็นลูกผู้ชายในการเเข่งขันสู้กันแบบแมนๆ ไม่โจมตีกัน

เมื่อถามว่าที่ผ่านมาเจอแล้วใช่หรือไม่ นายสิระกล่าวว่า เจอแล้วเดี๋ยวจะให้ทนายไปฟ้องร้องแล้ว เอารูปตนไปโจมตี ฟ้องพรรค 50 ล้าน ตนเห็นจากเพจของพรรคก้าวไกลคนรุ่นใหม่เขาทำกันแบบนี้ ก่อนนี้เคยเห็นต่อต้านการก้มกราบ พอจะมาสมัครเป็นส.ส. ไหว้สวยจริงๆก้มกราบได้จริงๆ การกระทำหรือสิ่งที่แสดงออกและจิตสำนึกมันขัดแย้งกันไหมให้ประชาชนดูว่ากลายเป็นการเล่นละครหรือไม่ หรือการที่จะจริงใจกับประชาชนเพื่อได้รับการเลือกตั้ง ส่วนตนยืนยันว่าจริงใจกับการหาเสียง เพราะเดี๋ยวดูในพื้นที่ก็จะรู้ว่าเรารู้จักเกือบทุกคน

เมื่อถามว่า จะส่งต่อหลวงพ่อป้อมให้กับนางสรัลรัศมิ์หรือไม่นั้น นายสิระ ได้ทำท่าทางควักเหรียญหลวงพ่อป้อมที่ห้อยคอพร้อมอุทานว่า “โอ้โหย” ทำให้ผู้สื่อถามย้ำว่า จะมีให้นางสรัลรัศมิ์ด้วยหรือไม่ ซึ่งนางสรัลรัศมิ์ ก็ตอบผู้สื่อข่าวว่า “มีค่ะ มี” เมื่อถามว่าหลวงพ่อป้อมยังคลังอยู่ใช่หรือไม่ นายสิระ กล่าวว่า การที่บอกว่าฝ่ายค้านหรือคนโจมตีว่าศาลรัฐธรรมนูญแทรกแซงได้ โดยผู้ใหญ่ของพรรคเรา เวลานี้ก็ชี้ชัดได้แล้วว่าไม่สามารถแทรกแซงได้ ขนาดตนต่อสู้ด้วยทุกเรื่องทุกราวมายังไม่รอดเลย ยืนยันว่าศาลรัฐธรรมนูญแทรกแซงไม่ได้ เมื่อมีคำตัดสินก็ขออย่าได้ไปโจมตีศาลรัฐธรรมนูญ สำหรับตนเรื่องที่เจอมาสำหรับคนอายุ 58 ปี ไม่ใช่เรื่องใหญ่

จากนั้นนายสิระและนางสรัลรัศมิ์ ได้เดินพบปะประชาชนในพื้นที่ก่อนที่จะขึ้นรถแห่ไป ทั้งนี้ในวันเดียวกันนี้เวลา 16.00 น. นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ในฐานะผู้อำนวยการการเลือกตั้งจะลงพื้นที่พร้อมนางสรัลรัศมิ์ด้วย โดยเป็นการลงพื้นที่เดินแนะนำตัว ชุมชนบางบัวร่วมใจพัฒนาเชิงสะพานไม้ 2 และชุมชนบางบัวเชิงสะพานไม้ 1 และออกมาเดินแนะนำตัวตลาดนัดเคหะบางบัว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง