รีเซต

ปธ.อนุให้วัคซีน เผยปมเข็ม 3 ล่าช้า ปปช.ไม่อยากฉีด-เข้าถึงยาก ประสานพื้นที่จัดการเร่งด่วน!!

ปธ.อนุให้วัคซีน เผยปมเข็ม 3 ล่าช้า ปปช.ไม่อยากฉีด-เข้าถึงยาก ประสานพื้นที่จัดการเร่งด่วน!!
มติชน
19 มกราคม 2565 ( 10:42 )
44
ปธ.อนุให้วัคซีน เผยปมเข็ม 3 ล่าช้า ปปช.ไม่อยากฉีด-เข้าถึงยาก ประสานพื้นที่จัดการเร่งด่วน!!

ข่าววันนี้ 19 มกราคม นพ.โสภณ เมฆธน ประธานอนุกรรมการอำนวยการบริหารจัดการการให้วัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ให้สัมภาษณ์ถึงมติการประชุมอนุกรรมการฯ เมื่อวันที่ 18 ม.ค. ที่ผ่านมา ว่า ที่ประชุมได้หารือร่วมกันถึงการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 เข็มกระตุ้น หรือเข็ม 3 ให้ประชาชน ช่วยกันรณรงค์ให้มีการเข้ารับตามกำหนด เนื่องจากเราพบปัญหาว่า ประชาชนหลายคนรับวัคซีนเข็ม 2 แล้วก็ไม่อยากรับเข็มกระตุ้นแล้ว แต่อีกส่วนที่อยากรับก็ติดปัญหาเรื่องการเข้าถึง เราจึงอยากให้หน่วยงานที่รับผิดชอบในแต่ละพื้นที่ทั้งในกรุงเทพมหานคร และภูมิภาค จัดบริการวัคซีนเข็ม 3 ให้ประชาชนเข้าถึงได้มากที่สุด ที่ผ่าน ก็พบว่ามีบางแห่งที่ออกหน่วยฉีดแบบรถโมบาย จัดฉีดแบบวอล์กอินสำหรับกลุ่ม 608 เป็นต้น ขณะที่ แต่ละจังหวัดตอนนี้ก็มีให้ประชาชนเข้าไปฉีดได้หน่วยเล็กที่สุดคือ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล(รพ.สต.)

 

นพ.โสภณ กล่าวว่า ที่ประชุมได้รับทราบผลการศึกษาประสิทธิผลของวัคซีนที่เชียงใหม่และกาฬสินธุ์ พบว่า ขณะนี้การรับวัคซีน 2 เข็มไม่เพียงพอ ต้องกระตุ้นด้วยเข็ม 3 ซึ่งสามารถใช้ได้ทั้งแอสตร้าเซนเนก้า หรือ ไฟเซอร์ ประสิทธิภาพไม่แตกต่างกัน โดยผลการศึกษาที่ จ.เชียงใหม่ ฉีดซิโนแวค 2 เข็ม กระตุ้นด้วยแอสตร้าฯ ประสิทธิภาพป้องกันได้ 96% ส่วนกระตุ้นด้วยไฟเซอร์ ป้องกันได้ 98% ขณะที่ จ.กาฬสินธุ์ ฉีดซิโนแวค 2 เข็ม กระตุ้นด้วยแอสตร้าฯ ป้องกันได้ 89% กระตุ้นด้วยไฟเซอร์ ป้องกันได้ 79% ดังนั้น เราจะฉีดกระตุ้นได้ทั้ง แอสตร้าฯ หรือ ไฟเซอร์ จึงต้องบริหารจัดการฉีดเข็ม 3 ให้ดี ทั้งเรื่องชนิดวัคซีนและการให้บริการที่สะดวก

 

อย่างไรก็ตาม นพ.โสภณ กล่าวว่า ผลการศึกษาของ นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พบว่า การฉีดซิโนแวค 2 เข็ม กระตุ้นด้วยแอสตร้าฯ หรือไฟเซอร์ เต็มหรือครึ่ง หรือกระตุ้นด้วยโมเดอร์น่า ได้ผลไม่แตกต่างกัน ส่วนการฉีดสูตรไขว้ซิโนแวค+แอสตร้าฯ กระตุ้นเข็ม 3 ด้วยแอสตร้าฯ ได้ภูมิต่ำกว่าการฉีดซิโนแวค 2 เข็ม ตามด้วยแอสตร้าฯ

 

นพ.โสภณ กล่าวว่า การฉีดวัคซีน ในเด็ก 5-12 ปี ขณะนี้มีเพียงไฟเซอร์ที่ขออนุญาตขยายอายุการใช้วัคซีนในเด็กเล็กได้ โดยวัคซีนจะทยอยเข้าไทย แล้วเราก็จะทยอยส่งไปพื้นที่ต่างๆ สัปดาห์ละ 3 แสนโดส เป็นวัคซีนไฟเซอร์ฝาสีส้ม สำหรับแนวทางการฉีด เข็มที่ 1 ห่างเข็ม 2 ที่ 8 สัปดาห์ ทางกรมควบคุมโรค ให้ความเห็นว่า จะเริ่มฉีดให้กลุ่มเด็ก 5-12 ปีที่มีโรคประจำตัว เป็นผู้ป่วย 7 โรคเรื้อรังก่อน ซึ่งจะฉีดให้สถานพยาบาล หลังจากนั้น จะเริ่มฉีดในเด็กที่โรงเรียน เริ่มจากเด็กชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 แล้วขยับอายุน้อยลงเรื่อยๆ แต่ย้ำว่า การฉีดเป็นไปตามความสมัครใจของผู้ปกครอง

 

นพ.โสภณ กล่าวว่า ประเด็นเรื่องเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์จากการฉีดวัคซีน พบลดลงในเข็มหลังๆ ปัญหาคือทางสถานพยาบาลไม่ได้ส่งข้อมูลให้กระทรวงฯ ซึ่งระบุว่าเกี่ยวข้องกับสิทธิผู้ป่วย และขาดการขอชันสูตรศพ ทำให้ได้ข้อมูลไม่เพียงพอในการสรุปผลของผู้เชี่ยวชาญ เราก็ต้องประสานทำความเข้าใจในเรื่องนี้

 

เมื่อถามว่าในที่ประชุมมีการหารือเรื่องเข็ม 4 ในประชาชนทั่วไปหรือไม่ นพ.โสภณ กล่าวว่า ขณะนี้เรารณรงค์ในเข็ม 3 ซึ่งมีประชาชนที่ต้องกระตุ้นเข็ม 3 ตามกำหนดเวลา คือเมื่อฉีดเข็ม 2 ห่างไปแล้ว 3 เดือนก็มารับเข็ม 3 ได้ หน่วยบริการต่างๆ ก็ร่วมมือเปิดลงทะเบียนให้ฉีดเข็ม 3 เต็มที่ ส่วนเข็ม 4 เข้าใจว่าตอนนี้จะกระตุ้นในบุคลากรทางการแพทย์ คนทำงานด่านหน้า และกลุ่ม 608 ที่รับเข็ม 3 ไปแล้วเกิน 3 เดือน ส่วนกรณีประชาชนทั่วไป เห็นว่าทางกระทรวงฯ ก็มีการพิจารณาแนวทางอยู่เช่นกัน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง