โจ๋ 14 แจ้งความ เจออริขู่ ลอบปักมีดเสียบล้อรถ แต่ดันทำมือถือ 'หล่น' ไว้
พัทลุง เด็กชายวัย 14 ปี มาเดินงานสวัสดี เสกัก พัทลุง ถูกกลุ่มเพื่อนคู่อริที่เคยมีเรื่องกันที่โรงเรียน ใช้มีดพกปลายแหลมแทงล้อรถเสียบปักติดไว้คารถจยย.เพื่อข่มขู่ แต่ดันทำมือถือตกไว้ เก็บได้เข้าแจ้งความ
เมื่อเวลา 01.20 น วันที่ 15 ธันวาคม 2565 ร.ต.อ.วัลลพ ยั่งยืน ร้อยเวร สภ.เมืองพัทลุง พร้อมด้วยชุดสืบสวน เข้าตรวจสอบที่บริเวณหน้างาน สวัสดี เสกักพัทลุง กระตุ้นเศรษฐกิจเมืองจังหวัดพัทลุง จัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 5 ธันวาคม ถึงวันที่ 14 ธันวาคม 2565 ซึ่งคืนนี้ เป็นคืนสุดท้ายของการจัดงานหลังได้รับแจ้งจากผู้เสียหายว่าถูกคู่อริข่มขู่ โดยการใช้มีดกรีดเบาะรถและเจาะยางล้อรถ
ในที่เกิดเหตุบริเวณที่จอดรถริมถนนด้านหน้างาน เจ้าหน้าที่พบรถ จยย.ฮอนด้า พีซีเอ๊ก สีดำ ไม่ติดหมายเลขทะเบียน บริเวณเบาะมีร่องรอยถูกกรีด ล้อรถถูกใช้มีดปลายแหลมเจาะ พร้อมปักมีดไว้ที่ล้อ ลักษณะการข่มขู่
สอบถามเด็กชายวัย 14 ปี บอกว่า ขณะที่ตนเดินเที่ยวงานกับพี่สาวสองคน จู่ๆได้ไปเจอกับคู่อริที่เคยมีปัญหากันขัดแย้งกันภายในโรงเรียนสาเหตุมาจากเรื่องผู้หญิง โดยฝ่ายคู่อริ ซึ่งเป็นอยู่ในวัยเดียวกัน ได้เดินเข้ามาหาและพูดจาหาเรื่อง จนเกือบได้ชกต่อยกัน แต่พี่สาวห้ามไว้ ไม่ให้มีเรื่อง
และในช่วงจังหวะดังกล่าวเผอิญมีกลุ่มวัยรุ่นซึ่งสองพี่น้อง ไม่รู้จักเกิดมีปัญหาชกต่อยกัน จนเกิดชุลมุนวุ่นวายขึ้น เขาสองคนพี่น้องรวมทั้งคู่อริของเขาต่างเร่งออกจากงาน แต่ระหว่างนั้น คู่อริของเขาได้ทำโทรศัพท์ตก เขาจึงเก็บไว้มาด้วย
เมื่อเดินกลับมาที่รถก็เห็นรถของตัวเอง ล้มอยู่และบริเวณตรงล้อรถ ทั้งหน้าและหลัง ถูกมีดกรีดจนยางรั่ว และมีมีดปลายแหลม ขนาดความยาวเกือบ หนึ่งไม้บรรทัด เสียบปักติดอยู่กับตัวรถจักรยานยนต์
จากการเปิดดูโทรศัพท์ของคู่อริที่ถือมาปรากฏข้อความในบทสนทนาทางแชท ว่าเจ้าของโทรศัพท์ ซึ่งเป็นวัยรุ่นคนดังกล่าว เป็นคนลงมือทำรถของเขาเพื่อเป็นการข่มขู่ เขาจึงโทรหาพ่อ พร้อมได้โทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจไว้เป็นหลักฐาน
สอบถาม ชายวัย 58 ปี พ่อของเด็กวัย 14 ปี บอกว่า ลูกชายเคยเล่าให้ฟังเกี่ยวการมีปัญหากับกลุ่มเพื่อนรุ่นเดียวกันที่โรงเรียน แต่ก็ไม่คิดว่าจะรุนแรงถึงขั้นนี้ ทั้งลูกของเขาโดนเพื่อนรุมกลั่นแกล้งบ่อยครั้ง บางครั้งรุมกันเขกหัวก็มี เมื่อไปแจ้งคุณครูแต่ก็ยังไม่ได้รับความสนใจและแก้ไข ทางโรงเรียนปล่อยเฉย ให้เรื่องผ่านและเงียบไปเอง จนมาเกิดเหตุการณ์ในลักษณะนี้ขึ้นส่อให้เห็นว่าบุตรชายของตนไม่มีความปลอดภัย
เบื้องต้นจะนำลูกชายและลูกสาวไปให้ปากคำเพิ่มเติมที่สถานีตำรวจ สภ.เมืองพัทลุง ก่อนจะสืบหาผู้กระทำความผิดมาลงโทษดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป