นายกฯ ขอนศ.สแตนเฟิร์ดเรียนจบแล้วอย่าปิดโอกาสกลับไทย ช่วยพัฒนาบ้านเกิด
วันนี้ (15 พ.ย. 66) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์ถึงการเดินทางไปมหาวิทยาลัยสแตนเฟิร์ด โดยได้ พูดคุยกับระดับศาสตราจารย์ ของมหาวิทยาลัย มีการพูดคุยใน 2 ประเด็นหลัก ประเด็นแรกการพัฒนาสตาร์ทอัพ ที่ประเทศไทย ยังไม่มียูนิคอร์น หรือบริษัทสตาร์ทอัพที่มีมูลค่าทางการตลาดสูง เกิน 36,000 ล้านบาท แต่ก็ถือว่าเป็นโอกาสที่จะให้นักลงทุนต่างประเทศ หรือคนรุ่นใหม่ที่อยากจะมาอยู่ในประเทศไทย ได้พัฒนาธุรกิจให้กลายเป็นยูนิคอร์นให้ได้
ประเด็นที่สอง มีการหารือความร่วมมือการแก้ปัญหาการทำลายป่าและการบริหารจัดการน้ำ ซึ่งเดือนหน้าจะเข้าสู่ช่วงที่ฝุ่น Pm 2.5 มีปริมาณสะสมสูงแล้ว โดยอาจจะทำเป็นแซนด์บ็อกซ์ ในเมืองหนึ่ง หรือจังหวัดใดจังหวัดหนึ่ง เพื่อให้สังคมมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหา pm 2.5 ลดลง
สำหรับการพบกับนักศึกษาไทยในมหาวิทยาลัยสแตนเฟิร์ด ส่วนใหญ่เป็นนักศึกษาระดับปริญญาตรี เป็นนักศึกษาระดับท็อป หรือ ระดับมันสมองของประเทศ แต่ส่วนมากบอกว่าหลังสำเร็จการศึกษาแล้วจะหาประสบการณ์ การทำงานในต่างประเทศ
นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีนี้ว่า เป็นสิ่งที่ดี แต่ทำให้มีความกังวลว่าคนเหล่านี้จะกลับไปทำงานที่ประเทศไทยหรือไม่ จึงเป็นหน้าที่ของนายกรัฐมนตรี ที่จะทำให้นักศึกษาเหล่านี้มีความสบายใจว่าเมื่อกลับประเทศแล้วจะมีงานที่เหมาะสม มีหน้าที่การงานที่ดี เป็นอนาคตที่ดีของประเทศต่อไป
“ผมเองเล่าให้เขาฟังว่าตั้งแต่รัฐบาลนี้ได้รับการเลือกตั้งมาว่า เราทำอะไรไปแล้วบ้าง ได้มีการเชื้อเชิญนักลงทุนต่างประเทศ ให้ไปเปิดภาคอุตสาหกรรมใหม่ๆที่ไฮเทค ไม่ว่าจะเป็น Google Microsotf หรือว่า AWS ซึ่งเป็นบริษัทใหญ่ทั้งนั้น ถ้าเกิดว่ามาทำงานที่นี่แล้ว
ดังนั้น อย่าปิดโอกาสตัวเองว่าจะไม่กลับประเทศ ให้ดูต่อไปว่าประเทศไทยจะพัฒนาไปมากขนาดไหน และ เป็นหน้าที่ของตนเองที่จะทำให้เกิดความสบายใจว่า กลับมาถึงกรุงเทพแล้วจะมีหน้าที่การงานที่ดีและเหมาะสม เป็นอนาคตที่ดีของประเทศต่อไป ” นายกรัฐมนตรีกล่าว
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าจากที่พบกับนักศึกษาไทย ในมหาลัยสแตนเฟิร์ด อยากให้ช่วยเรื่องใดบ้าง นายเศรษฐา กล่าว่า นักศึกษาเหล่านี้มีความรักบ้าน แต่ก็ห่วงอนาคตตัวเอง เมื่อกลับไปประเทศไทยอยากมีงานที่ดีรองรับ หลายคนที่เป็นนักศึกษาทุน ต้องกลับไปใช้ทุน แต่หลายคนที่เรียนเกี่ยวกับงานด้านวิจัย ทำงานงานวิจัย อยู่ที่สหรัฐฯจะมีรายได้สูงกว่าได้รับการสนับสนุนจากภาคเอกชน หากกลับไปเมืองไทยรายได้ก็ต่ำจึงมีความกังวลเรื่องนี้
ข้อมูลจาก : ทำเนียบรัฐบาล
ภาพจาก : ทำเนียบรัฐบาล