ยอดผู้เสียชีวิตตึก สตง.ถล่ม พุ่ง 86 ราย เร่งค้นหาอีก 14 คน

ยอดผู้เสียชีวิตเหตุอาคารสำนักงาน สตง. ถล่ม เพิ่มเป็น 86 ราย ยืนยันอัตลักษณ์แล้ว 63 ราย ยังสูญหายอีก 14 ราย เร่งเปิดชั้นใต้ดินโซน C
เปิดยอดตึก สตง.ถล่ม เสียชีวิตพุ่ง 86 ราย ค้นหาผู้สูญหายอีก 14 คนในชั้นใต้ดิน
สถานการณ์เหตุอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เขตจตุจักร พังถล่มจากแผ่นดินไหวยังไม่คลี่คลาย ล่าสุด กรุงเทพมหานครเปิดเผยยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 86 ราย โดยยืนยันอัตลักษณ์ได้แล้ว 63 ราย ขณะยังมี 14 รายที่ยังไม่พบตัว คาดติดค้างในซากอาคารชั้นใต้ดินโซน C
น.ส.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เผยว่า กทม. ได้ปรับข้อมูลผู้เสียชีวิตตามจำนวนที่ญาติแจ้งกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยมีการนำร่างไปตรวจพิสูจน์อัตลักษณ์รวมทั้งสิ้น 86 ราย และยืนยันตัวตนได้แล้ว 63 ราย แบ่งเป็นคนไทย 46 ราย เมียนมา 15 ราย กัมพูชา 1 ราย และลาว 1 ราย
ยืนยัน 109 คนอยู่ในเหตุการณ์ สะท้อนความสูญเสียรุนแรงที่สุดจากแผ่นดินไหวในเมือง
ยอดรวมผู้ที่อยู่ในอาคารขณะเกิดเหตุเพิ่มขึ้นเป็น 109 คน โดย 86 รายเสียชีวิตแล้ว เหลือเพียง 14 รายที่ยังคงอยู่ระหว่างการค้นหาในชั้นใต้ดิน
เจ้าหน้าที่ระบุว่า โซนที่ยังไม่สามารถเข้าถึงได้คือโซน C2 และ C3 ซึ่งเป็นทางเชื่อมไปยังลานจอดรถ คาดว่าผู้ประสบภัยที่วิ่งหนีลงบันไดหนีไฟอาจมุ่งหน้าไปยังจุดดังกล่าวก่อนอาคารถล่มลงมา
พบร่องรอยชีวภาพในโซน A4-C3 เร่งเปิดพื้นที่ลึก หวังเจอผู้สูญหาย
ข้อมูลจากทีมกู้ภัย USAR ระบุว่า โซน A4 ซึ่งอยู่แนวเดียวกับโซน D4 เป็นโพรงที่สามารถเชื่อมจากชั้นใต้ดินสู่ด้านบนได้ โดยพบคราบน้ำเหลืองและแมลงวัน สะท้อนถึงความเป็นไปได้ที่จะมีศพอยู่ในจุดนั้น
ขณะเดียวกัน โซน C2-C3 ยังเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญ เนื่องจากเป็นทางหนีไฟหลักที่อาจมีผู้หนีตายติดค้าง เจ้าหน้าที่จึงเร่งเปิดพื้นที่อีกประมาณ 2 เมตร ซึ่งจะทำให้สามารถเข้าถึงชั้นใต้ดินได้ครึ่งหนึ่งของพื้นที่ถล่ม
กทม.ไม่ยุติภารกิจ แม้ต้องตัดเหล็ก-ผ่าโครงสร้างหนัก
นายสุริยชัย รวิวรรณ ผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กทม. ย้ำว่า จะไม่หยุดภารกิจจนกว่าจะมั่นใจว่าไม่มีผู้ใดติดค้างอยู่
การทำงานยังคงเผชิญอุปสรรคจากเสาโครงสร้างเหล็กที่สมบูรณ์ต้องใช้เครื่องจักรหนักและระบบตัดแก๊ส โดยมีรถเครื่องจักรขนาดใหญ่ 6 คันประจำการในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง หากไม่พบความเสียหายจะสามารถเปิดพื้นที่ชั้นใต้ดินโซน C ได้ครบภายในวันนี้
เสียชีวิต 86 ราย สะท้อนความเปราะบางในวิกฤตเมือง
เหตุการณ์นี้กลายเป็นหนึ่งในภัยพิบัติในเขตเมืองที่รุนแรงที่สุดของกรุงเทพมหานครในรอบหลายปี ความสูญเสียถึง 86 ชีวิตไม่เพียงเป็นตัวเลข แต่สะท้อนถึงความจำเป็นของระบบเตือนภัย การเตรียมพร้อมของอาคาร และการรับมือในยามฉุกเฉิน
ภารกิจค้นหาที่ยังดำเนินต่อ คือบทพิสูจน์ถึงความตั้งใจของเจ้าหน้าที่ในการ “ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง” และหวังว่าจะพบผู้สูญหายคนสุดท้ายในเร็ววัน