เซี่ยงไฮ้ปล่อยผู้หายป่วยโควิดกว่า 1.1 หมื่นคนกลับบ้าน กวางโจวหันเรียนออนไลน์
ท่ามกลางการประกาศล็อกดาวน์นครเซี่ยงไฮ้ ซึ่งเป็นเมืองที่มีประชากรอยู่เป็นจำนวนมากที่สุดของจีน ล่าสุดมีรายงานว่าได้มีการปล่อยตัวผู้ป่วยที่ติดโควิด-19 ซึ่งหายป่วยกว่า 11,000 คนกลับบ้านแล้ว
มาตรการล็อกดาวน์ทั่วเซี่ยงไฮ้ยังมีผลบังคับใช้ แต่เจ้าหน้าที่สาธารณสุขย้ำว่าผู้ที่หายป่วยต้องได้รับอนุญาตให้กลับบ้าน พร้อมแสดงความคาดหวังว่าครอบครัวและชุมชนของพวกเขาจะไม่วิตกกังวลเกี่ยวกับผู้ที่หายป่วยเหล่านี้ และไม่กระทำการอันเป็นการเลือกปฏิบัติกับพวกเขาด้วย
ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาเซี่ยงไฮ้ซึ่งมีประชากร 26 ล้าน คนยังคงพบผู้ติดเชื้อที่แสดงอาการ 1,006 คน และผู้ป่วยที่ไม่แสดงอาการเกือบ 24,000 คน โดยเซี่ยงไฮ้ถูกล็อกดาวตั้งแต่วันที่ 28 มีนาคมที่ผ่านมา
ขณะที่ทางการระบุว่ามาตรการคุมเข้มอาจถูกยกเลิกในพื้นที่ที่ไม่พบผู้ป่วยรายใหม่ในช่วง 14 วันที่ผ่านมา หลังการทดสอบหาผู้ติดเชื้อครั้งใหญ่ใหม่อีกรอบหนึ่ง
ทางการเซี่ยงไฮ้ออกมาระบุว่าพวกเขาได้เร่งแก้ไขปัญหาการขาดแคลนอาหารประจำวันสำหรับผู้ที่ถูกล็อกดาวน์ หลังจากมีการร้องเรียนเกี่ยวกับการจัดส่งอาหารรวมถึงข้าวของเครื่องใช้พื้นฐานที่จำเป็นอื่นๆ ที่ประสบปัญหาอย่างหนักเมื่อการล็อกดาวน์เข้าสู่สัปดาห์ที่ 3
ในกวางโจว โรงเรียนประถมและมัธยมศึกษาจะเปลี่ยนมาใช้การเรียนออนไลน์ตั้งแต่วันที่ 11 เมษายนนี้ หลังจากพบรายงานผู้ติดเชื้อท้องถิ่น 23 คนตั้งแต่วันศุกร์ โดยขณะนี้ได้มีการเปลี่ยนศูนย์นิทรรศการเป็นโรงพยาบาลชั่วคราว หลังจากที่ทางการระบุว่าจะเริ่มทำการทดสอบหาผู้ติดเชื้อในพื้นที่ต่างๆ
ด้านทางการสหรัฐได้แนะนำให้พลเมืองทบทวนการเดินทางไปจีนอีกครั้ง โดยระบุว่ามีการบังคับใช้กฎหมายท้องถิ่นและข้อจำกัดเกี่ยวกับโควิด-19 ตามอำเภอใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฮ่องกง เซี่ยงไฮ้ และมณฑลจี๋หลิน โดยสหรัฐอ้างถึงความเสี่ยงของการที่พ่อแม่ลูกอาจถูกแยกจากกัน
นายจ้าว ลี่เจียง กระทรวงต่างประเทศจีนตอบโต้ทันทีว่า จีนไม่พอใจอย่างยิ่งและคัดค้านอย่างหนักแน่นต่อข้อกล่าวหาที่ไร้เหตุผลของฝ่ายสหรัฐเกี่ยวกับมาตรการรับมือกับการแพร่ระบาดของจีน และควรจะชี้ให้เห็นว่านโยบายรับมือดังกล่าวของจีนมาจากพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ และเป็นการดำเนินการที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งจีนมั่นใจอย่างเต็มที่ว่าเซี่ยงไฮ้และที่อื่นๆในจีนจะสามารถเอาชนะการแพร่ระบาดระลอกใหม่ได้