อังกฤษหารือออกซ์ฟอร์ดปรับปรุงวัคซีนโควิดป้องกัน ‘สายพันธุ์เบตา’

วันนี้ ( 2 มิ.ย. 64 )รัฐบาลอังกฤษกำลังเจรจากับมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดและแอสตราเซเนกา (Oxford-AstraZeneca) ให้ปรับปรุงประสิทธิภาพของวัคซีนโควิด-19 พุ่งเป้าไปที่การป้องกันโควิดกลายพันธุ์ “เบตา” (beta) หรือสายพันธุ์แอฟริกาใต้เป็นกรณีพิเศษ และรัฐบาลจะสนับสนุนด้านการเงินในการทดลองฉีดวัคซีน
ก่อนหน้านี้ อังกฤษได้รับวัคซีน 100 ล้านโดสที่พัฒนาโดยมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด และอนุญาตให้แอสตราเซเนกาผลิต และกระทรวงสาธารณสุข แถลงว่า วัคซีนชนิดพิเศษภายใต้การหารือนี้ จะมุ่งเน้นไปที่การป้องกันโควิดกลายพันธุ์ บี.1.351
แอฟริกาใต้ ระงับการใช้วัคซีนแอสตราเซเนกาในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา หลังมีข้อมูลพบว่า สามารถป้องกันได้เล็กน้อยถึงปานกลางต่อเชื้อไวรัสโควิดสายพันธุ์ที่ระบาดในแอฟริกาใต้ ซึ่งขณะนี้ รู้จักกันในชื่อ “beta” ภายใต้ระบบการตั้งชื่อใหม่ขององค์การอนามัยโลก หรือ WHO
มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด พิจารณามอบภารกิจที่สำคัญที่สุดให้บริษัทผู้ผลิตวัคซีน แอสตราเซเนกา ซึ่งก็ตั้งเป้าพัฒนาวัคซีนชนิดใหม่เพื่อป้องกันไวรัสกลายพันธุ์สายพันธุ์แอฟริกาใต้ภายในฤดูใบไม้ร่วงนี้ ส่วนรัฐบาลอังกฤษให้คำมั่นสนับสนุนด้านการเงินในการทดลองวัคซีนที่ปรับปรุงขึ้นมาใหม่
นอกจากนี้ ยังมีข่าวดี อังกฤษทำสถิติไม่มีผู้เสียชีวิตรายใหม่ภายใน 28 วันของผู้ที่มีผลตรวจหาเชื้อโควิด-19 เป็นบวกเมื่อวานนี้ (อังคาร) โดยครั้งสุดท้ายที่อังกฤษไม่พบผู้เสียชีวิตต้องย้อนกลับไปในเดือนมีนาคม 2020 ก่อนที่ประเทศจะเข้าสู่มาตรการล็อกดาวน์ครั้งแรก แต่สถิติเมื่อวานนี้ ก็เกิดขึ้นหลังวันหยุดประจำชาติในวันจันทร์ ซึ่งอาจทำให้ข้อมูลคลาดเคลื่อน
นายแมทท์ แฮนค็อก รัฐมนตรีสาธารณสุขอังกฤษ ระบุในแถลงการณ์ฉบับหนึ่งว่า ทั้งประเทศยินดีมากที่ไม่มีผู้เสียชีวิตจากโควิดเมื่อวานนี้ พร้อมกล่าวด้วยว่า วัคซีนทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพอย่างชัดเจน
อังกฤษมีผู้เสียชีวิตจากไวรัสโควิด สะสมทั่วประเทศ อยู่ที่ 127,782 คน และสูงสุดเป็นอันดับ 5 ของโลก จากข้อมูลของมหาวิทยาลัยจอห์นส ฮอปกินส์
รัฐบาลอังกฤษ รายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่อยู่ที่ 3,165 คน ลดลงอย่างมากจากเมื่อวันก่อน