รีเซต

สหรัฐฯชี้ จีนจะสั่งสม "หัวรบนิวเคลียร์" เพิ่มเป็น 2 เท่า

สหรัฐฯชี้ จีนจะสั่งสม "หัวรบนิวเคลียร์" เพิ่มเป็น 2 เท่า
TNN ช่อง16
2 กันยายน 2563 ( 13:36 )
277

วันนี้ ( 2 ก.ย. 63)หลายสำนักข่าวของสหรัฐอเมริกา ได้รายงานการแถลงของกระทรวงกลาโหม (เพนตากอน) ว่า จีนเตรียมจะเพิ่มจำนวน “หัวรบนิวเคลียร์” (nuclear warheads) ให้เป็น 2 เท่า จากจำนวนที่มีประมาณ 290 ลูกในเวลานี้ ภายในระยะเวลา 10 ปีข้างหน้า เพื่อเป็นการขยายศักยภาพด้านนิวเคลียร์ของแดนมังกร ที่ครอบคลุมการใช้งานทั้งทางบก ทางทะเล และทางอากาศ อีกทั้งยังเพียงพอที่จะติดตั้งไปกับขีปนาวุธข้ามทวีป หรือ ICBM


รายงานจากเพนตากอนนี้ ไม่ใช่การรายงานครั้งแรกจากสหรัฐฯ ถึงความพยายามของจีนในการเพิ่มศักยภาพด้านอาวุธนิวเคลียร์ แต่เป็นครั้งแรกที่กระทรวงกลาโหม ได้เปิดเผยตัวเลขอย่างเป็นทางการออกมา โดยเป็นการประเมินจากวัตถุดิบในการผลิตนิวเคลียร์ของจีน


การรายงานของเพนตากอน เมื่อวานนี้ ท่ามกลางความตึงเครียดระหว่างวอชิงตัน และปักกิ่ง หลังจากที่ปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ ได้กล่าวหาว่าจีนเป็นต้นตอการระบาดของโควิด-19 และมีการเผชิญหน้ากับจีนในหลายประเด็น รวมถึงฮ่องกง และทะเลจีนใต้ 

อีกทั้งยังมีขึ้นเพียงไม่นาน หลังจากที่สหรัฐฯได้แสดงความประสงค์ ในการจัดตั้ง “ข้อตกลงนิวเคลียร์ฉบับใหม่” ที่จะมีรัสเซียและจีนรวมอยู่ด้วย เพื่อให้เป็นข้อตกลง “ไตรภาคี” หลังจากที่สนธิสัญญา New Start ซึ่งเป็นสนธิสัญญาลดอาวุธนิวเคลียร์ ระหว่างรัสเซียและสหัฐฯ  ที่จำกัดจำนวนหัวรบนิวเคลียร์ที่ 1,550 ลูก


สำหรับขีปนาวุธข้ามทวีป, ทิ้งตัวติดเรือดำน้ำ และเครื่องบินทิ้งระเบิดขนาดใหญ่ ที่ใช้งานอยู่ โดยนับเครื่งอบินทิ้งระเบิดแต่ละลำว่ามีหัวรบนิวเคลียร์ 1 ลูกเท่านั้น.. ซึ่งมีกำหนดสิ้นสุดสัญญาในเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า


โดยจีนได้แสดงจุดยืนมาโดยตลอดที่จะต่อต้านการเข้าร่วมสนธิสัญญา หรือการเจรจาเพื่อควบคุมนิวเคลียร์ พร้อมบอกว่า การที่สหรัฐฯเรียกร้องให้จีนเข้าร่วมนั้นเป็นการไม่เคารพ อีกทั้งสหรัฐฯยังมีจำนวนหัวรบนิวเคลียร์มากกว่าจีนหลายเท่า  ซึ่งเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา นักการทูตจีนบอกว่า จีนจะยินดีเข้าร่วมการเจรจา หากสหรัฐฯลดจำนวนนิวเคลียร์ให้เหลือเท่าจีน! 


เกาะติดข่าวที่นี่
website: www.TNNThailand.com
facebook : TNNThailand
facebook live : TNN Live
twitter : @TNNThailand
Line : @TNNONLINE
Youtube Official : TNNThailand
Instagram : @tnn_online
TIKTOK : @tnnonline


ข่าวที่เกี่ยวข้อง