รีเซต

ทรัมป์จี้สภาคองเกรสผ่าน 'ร่างกม.เยียวยาโควิด-19' ขณะยอดผู้ป่วยเพิ่มขึ้น

ทรัมป์จี้สภาคองเกรสผ่าน 'ร่างกม.เยียวยาโควิด-19' ขณะยอดผู้ป่วยเพิ่มขึ้น
Xinhua
15 พฤศจิกายน 2563 ( 13:08 )
63
ทรัมป์จี้สภาคองเกรสผ่าน 'ร่างกม.เยียวยาโควิด-19' ขณะยอดผู้ป่วยเพิ่มขึ้น

     วอชิงตัน, 15 พ.ย. (ซินหัว) -- เมื่อวันเสาร์ (14 พ.ย.) โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เรียกร้องให้สภาคองเกรสผ่านร่างกฎหมายเยียวยาการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ขณะที่ยอดผู้ป่วยที่ได้รับการยืนยันเพิ่มขึ้นทั่วประเทศทรัมป์โพสต์ผ่านทางทวิตเตอร์ว่า สภาคองเกรสต้องผ่านร่างกฎหมายเยียวยาโควิด-19 ในตอนนี้ ซึ่งต้องการเสียงสนับสนุนจากพรรคเดโมแครต เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องใหญ่และสำคัญที่ต้องดำเนินการให้เสร็จสิ้นข้อคิดเห็นของทรัมป์มีขึ้นหลังจากสหรัฐฯ มีผู้ป่วยโรคโควิด-19 สูงสุดเป็นประวัติการณ์อยู่ที่เกือบ 200,000 ราย เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (12 พ.ย.) ซึ่งถือเป็นสถิติใหม่ครั้งที่ 5 ในรอบหนึ่งสัปดาห์เมื่อวันศุกร์ (13 พ.ย.)

 

แนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ระบุว่าจำนวนผู้ป่วยโรคโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้นคือสถานการณ์ฉุกเฉินร้ายแรงซึ่งต้องอาศัยความร่วมมือในทุกด้านจากสภาคองเกรส โดยประเด็นหลักในสภาคองเกรสยังคงเป็นมาตรการเยียวยาโรคโควิด-19เพโลซีกล่าวว่า เราต้องปกป้องผู้คนและการดำรงชีวิตของพวกเขา แต่สมาชิกพรรครีพับลิกันในสภาคองเกรสยังคงเล่นตุกติกด้วยการทำให้เรื่องล่าช้า บิดเบือน และปฏิเสธ ทำให้มีผู้ป่วยเสียชีวิตมากขึ้น โดยขณะนี้สหรัฐฯ มีผู้ป่วยโรคโควิด-19 มากกว่า 10 ล้านราย และเสียชีวิตมากถึง 240,000 รายนับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดเพโลซีและสตีเวน มนูชินรัฐมนตรีกระทรวงการคลังของสหรัฐฯ กำลังเจรจาชุดมาตรการเยียวยาโควิด-19 แบบใหม่มานานหลายเดือน แต่ยังคงไม่สามารถบรรลุข้อตกลงได้

 

เมื่อวันอังคาร (10 พ.ย.) มิตช์ แมคคอนเนลล์ ผู้นำเสียงข้างมากในวุฒิสภาสหรัฐฯ เปลี่ยนท่าทีเกี่ยวกับมาตรการเยียวยาโควิด-19 และวิจารณ์ข้อเสนอของพรรคเดโมแครตว่าเป็นสิ่งที่ "ไร้สาระ" และ "เป็นแบบสังคมนิยม" โดยสหรัฐฯ ต้องการมาตรการเยียวยาที่มีประสิทธิภาพและครอบคลุมมากกว่านี้ ซึ่งมุ่งเน้นไปที่โรงเรียน สถานพยาบาล ธุรกิจขนาดเล็ก และผู้ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดเมื่อช่วงต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ซึ่งพรรคเดโมแครตครองเสียงข้างมาก ผ่านร่างกฎหมายเยียวยาจำนวน 2.2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 66 ล้านล้านบาท)

 

ขณะที่วุฒิสภาสังกัดพรรครีพับลิกันบางกลุ่ม ยืนกรานว่าร่างกฎหมายนี้จะต้องมีจำนวนเงินต่ำกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 30 ล้านล้านบาท) และไม่สามารถหาข้อสรุปในการเพิ่มงบประมาณอีก 5 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 15 ล้านล้านบาท) ได้เมื่อช่วงปลายเดือนตุลาคมนักเศรษฐศาสตร์ รวมถึงเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ เน้นย้ำหลายครั้งว่ามาตรการที่ผ่อนปรนทางการคลังมากขึ้นเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อรักษาการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ และเตือนว่าอาจเกิดผลกระทบที่ร้ายแรงหากไม่มีการสนับสนุนทางการคลังอย่างทันท่วงที

 

 

รวมสิทธิส่งเสริมคุณภาพชีวิต เกาะติดเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ทันเรื่องราวกระแสสังคม

สัมผัสประสบการณ์ข่าวได้ที่ แอปพลิเคชัน ทรูไอดี (ดาวน์โหลดเลยที่นี่!!)

ข่าวที่เกี่ยวข้อง