ครม.ไฟเขียวเปิดทาง ออก "Thailand Digital Token" งวดแรก 5 พันล้านบาท

นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่าที่ประชุม ครม. อนุมัติตามที่กระทรวงการคลังเสนอ การอนุมัติวิธีการกู้เงินโดยการออกโทเคนดิจิทัลของรัฐบาล (Government Token : G-Token) ตามมาตรา 10 วรรคหนึ่งแห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. 2548 ซึ่งรัฐบาลมีเป้าหมายที่จะสร้างโอกาสและส่งเสริมการเข้าถึงการลงทุนที่มีคุณภาพให้กับประชาชน โดยผลักดันโทเคนดิจิทัลของรัฐบาลให้เป็นเครื่องมือการระดมทุนรูปแบบใหม่ของกระทรวงการคลัง ซึ่งเป็นการนำเทคโนโลยีการเงินมาประยุกต์ใช้เพื่ออำนวยความสะดวกและเพิ่มทางเลือกในการลงทุน ให้กับประชาชนมากขึ้นและนอกจากนี้การออก G-ToKen ยังช่วยเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลและช่วยขับเคลื่อนประเทศไทยสู่สังคมดิจิทัลในอนาคต โดยรัฐบาลเน้นย้ำในเรื่องของระบบและกระบวนการที่มีความปลอดภัย โปร่งใส ตรวจสอบได้ เป็นตามกฎหมายและเกิดประโยชน์สูงสุดของประชาชน
นายกรัฐมนตรีได้กล่าวต่อไปว่า ที่ประชุม ครม.ได้อนุมัติให้กระทรวงการคลังเสนอ ร่างกฎกระทรวงการผลิตสุรา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... เพื่อส่งเสริมความสามารถในการแข่งขันทางการค้าของผู้ประกอบอุตสาหกรรมสุราขนาดเล็กและผู้ประกอบอุตสาหกรรมสุราขนาดกลางตามนโยบายการสร้างโอกาสต่อยอดจากอุตสาหกรรมเดิมเพื่อส่งเสริม Soft Power ของประเทศและนโยบายการยกระดับการบริการภาครัฐ โดยปรับปรุงเกณฑ์และเงื่อนไขการผลิตสุราเพื่อลดข้อจำกัดในการเข้าสู่ธุรกิจประกอบสุราของผู้ค้ารายใหม่ ทั้งนี้ จะมีการแก้ไขหลักเกณฑ์ของผู้ยื่นคำขอรับใบอนุญาต การแก้ไขหลักเกณฑ์และเงื่อนไขเกี่ยวกับสถานที่ตั้งของโรงอุตสาหกรรมสุรากลั่น ขนาดเล็กและขนาดกลาง และการแก้ไขคำนิยามเกี่ยวกับโรงอุตสาหกรรมสุราแช่ชนิดเบียร์ประผลิตเพื่อขาย ณ สถานที่ผลิต ซึ่งการแก้ไขหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่เกี่ยวข้องตามกฎกระทรวงจะเป็นทำให้เกิดประโยชน์แก่ผู้ค้าทั้งรายเล็กและกลาง
ด้านนายพิชัย ชุณหวขิร รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรววงการคลัง กล่าวว่า รัฐบาลมีแผนจะออกเครื่องมือระดมทุนแบบใหม่ของภาครัฐ คือ "Thailand Digital Token" เพื่อเป็นทางเลือกการออมให้กับประชาชนเพิ่มเติมจากรูปแบบเดิมที่มีการออกพันธบัตรออมทรัพย์ เพื่อให้สามารถเข้าถึงประชาชนรายย่อยได้มากขึ้นให้ได้รับผลตอบแทนที่ดีกว่าการฝากเงินและลงทุนในจำนวนน้อยได้ โดยคาดว่าจะทดลองระบบด้วยการออกงวดแรกราว 5 พันล้านบาท ภายใน 1-2 เดือนนี้
ทั้งนี้ กระทรวงการคลังได้รับทราบความคิดเห็นของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มาพิจารณาแล้วว่าโทเคนดังกล่าวจะไม่ได้นำไปใช้ในการชำระค่าสินค้าและบริการ (Means of Payment) และจะทำในสัดส่วนที่เหมาะสม แต่รายย่อยจะสามารถนำโทเคนไปแลกเปลี่ยนมือได้ผ่านระบบ Exchange ที่มีอยู่ได้