ทำไม “ฮุนได” ถึงเลือกเปิดตัว Elantra N รถยนต์สมรรถนะสูงในไทย เป็นที่แรกของตลาดโลก
ในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 40 หรือ Motor Expo “ฮุนได” ถือเป็นหนึ่งในค่ายรถที่ได้รับการจับตามองจากการมาถึงของ “IONIQ 5” รถยนต์พลังงานไฟฟ้า (EV) ของค่ายในไทย และฮุนไดก็ใช้โอกาสนี้ในการเปิดตัวอีลันทรา เอ็น (Elantra N) รถยนต์สมรรถนะสูง ซึ่งถือเป็นครั้งแรกของตลาดต่างประเทศของฮุนไดด้วย
จากการเปิดตัวในครั้งนี้ส่งผลให้กระแสสังคมตั้งคำถามว่าทำไม ถึงเลือกเปิดตัวในไทย และทำไม ถึงต้องมี “N” สัญลักษณ์นี้บ่งบอกความแตกต่างจากฮุนไดทั่วไปอย่างไรบ้าง ทั้งหมดนี้ TNN Tech ได้พูดคุยกับ แจฮยอน กวาง หัวหน้าทีมกลยุทธ์ของแบรนด์ N จากสำนักงานใหญ่ของฮุนไดในเกาหลีใต้ พร้อมกับทีมงานชาวไทยเพื่อตอบคำถามเหล่านี้
Hyundai N คืออะไร
ในการพูดคุยครั้งนี้เริ่มจากการที่ทีมงานฝั่งฮุนไดให้นิยามว่า N มาจากคำหลาย ๆ คำ ในแนวคิด “Never Just Drive” ที่ส่งมอบประสบการณ์การขับขี่ที่สนุกสนานบนสนามแข่ง แต่ยังคงความสามารถในการใช้ในชีวิตประจำวัน ร่วมถึง N ยังหมายถึง เมืองนัมยาง (Namyang) ที่เป็นศูนย์วิจัยและพัฒนารถยนต์ฮุนได และสนามแข่งนูเบิร์กริง (Nürburgring) สนามแข่งที่เป็นสัญลักษณ์ของรถที่มีสมรรถนะสูงอีกด้วย
สิ่งที่ฮุนไดเน้นย้ำเป็นพิเศษในระหว่างการให้สัมภาษณ์กับสื่อ คือการพัฒนาภายใต้หลักการ 3 อย่าง ได้แก่ 1. Corner Rascal การขับขี่ที่แม่นยำและไว้ใจได้ในทุกโค้ง 2. Race Track Capability ความสามารถในการขับขี่บนสนามแข่งอย่างเต็มรูปแบบ และ 3. Everyday Sports Car ที่รักษาความสามารถในการใช้งานในชีวิตประจำวันแม้ว่าจะเป็นรถสำหรับสนามแข่งก็ตาม
ฮุนไดพัฒนาจากรากฐานสู่สนามแข่ง
ฮุนไดให้ข้อมูลกับสื่อว่าการพัฒนา Hyundai N อยู่ใต้หลักพิระมิดการพัฒนา โดยมีฐานเป็นรถยนต์ที่ใช้งานทั่วไป ขึ้นไปสู่ N Line ที่ให้กลิ่นอายความสปอร์ตในการขับขี่และการตกแต่ง ไปจนถึง N ที่พัฒนาขึ้นมาสู่ระดับรถยนต์สมรรถนะสูงที่ใช้งานได้ในสภาพถนนปกติ ไปสู่ระดับ Rolling Lab ที่สร้างรถออกมาเพื่อทดสอบความเป็นไปได้ในการพัฒนารถยนต์สมรรถนะสูง ก่อนไปสู่ระดับรถแข่งในสนาม หรือ Motor Sport ในที่สุด
Elantra N รถยนต์ที่ฮุนไดมั่นใจว่าขับสนุก
ในปัจจุบัน Hyundai N มีอยู่ด้วยกันหลายรุ่น ได้แก่ IONIQ 5 N, i20 N, i30 N, i30 Fastback N, Veloster N, Kona N และ Elantra N ที่มาเปิดตัวในไทยครั้งแรก โดย Elantra N ใช้เครื่องยนต์ Theta-II 2.0 T-GDi เทอร์โบ กำลังสูงสุด 280 แรงม้า ที่ 5,500 - 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 392 นิวตันเมตร ที่ 2,100 - 4,700 รอบต่อนาที ใช้ระบบส่งกำลังแบบ N 8-speed Wet Dual Clutch Transmission (DCT) ที่เปิดโอกาสให้ผู้ขับขี่เปลี่ยนเกียร์เองได้
ทั้งนี้ ฮุนไดทราบดีว่าเลขแรงม้าในรุ่น Elantra N อาจไม่ได้เป็นเลขที่สูงจนน่าทึ่ง แต่ฮุนไดได้นำเสนอประสบการณ์การขับขี่ที่ไม่ต่างจากการขับขี่ในสนามแข่ง ด้วยระบบวาล์วท่อไอเสียแบบแปรผันที่สร้างเสียง Pop-corn Sound (เสียงป๊อปตอนเร่งเครื่อง) ซึ่งทำให้เกิดความเร้าใจระหว่างการเร่งแซงในสนามแข่ง
นอกจากนี้ตัวรถยังมีระบบกันสะเทือนแบบ Adaptive ใช้ระบบบังคับเลี้ยวแบบ Rack-mounted Motor Driven Power Steering (R-MDPS) ซึ่งเป็นการจัดการน้ำหนักพวงมาลัยที่ส่งต่อมาจากล้อคู่หลัง และระบบดิสก์เบรกประสิทธิภาพสูงพร้อมช่องระบายความร้อนขนาด 360 x 30 มม. (ล้อหน้า) และขนาด 314 x 20 มม. (ล้อหลัง)
ลูกค้าของ Elantra N รวมถึง Hyundai N คือใคร
Elantra N เปิดราคาอยู่ที่ 2,999,000 บาท ในยุคที่การเติบโตของรถยนต์ EV กำลังเป็นกระแสมาแรง ดังนั้น คำถามคือ Elantra N จะเข้ามาขายคนกลุ่มใดในไทย ซึ่งทางฮุนได ได้ให้คำตอบว่า ทางค่ายตั้งเป้ายอดขายว่าจะมีการส่งมอบ Elantra N กว่า 100 คัน ภายในปีนี้ ซึ่งถึงแม้ว่าจะเป็นเลขที่ไม่สูงมาก แต่ทางฮุนไดมองว่าตลาดที่ฮุนไดกำลังเจาะเข้าไป คือตลาดของผู้ใช้ที่รักรถและการขับขี่รถสมรรถนะสูงในสนามแข่ง ซึ่งเป็นกลุ่มที่เฉพาะเจาะจง
ทั้งนี้ TNN Tech มองว่า Elantra N จะต้องเผชิญคู่แข่งในตลาดที่ปัจจุบันมีผู้เล่นอย่างเช่น โตโยต้า รุ่น GR 86 ที่เปิดราคา 2,949,000 บาท ฮอนด้า ในรุ่น Civic Type R ที่เริ่มต้นราคา 3,990,000 บาท รวมถึงมาสด้า MX-5 ในราคา 2,912,000 บาท ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นตัวอย่างคู่แข่งที่ Elantra N ต้องคับเขี่ยวในตลาดใหม่นี้
ผู้ที่สนใจสามารถเข้าไปเยี่ยมชม Elantra N ได้ที่บูทของฮุนได ในงาน Motor Expo ระหว่างวันที่ 30 พฤศจิกายน - 11 ธันวาคมนี้ ณ ศูนย์การประชุมอิมแพ็ค ชาแลนเจอร์ เมืองทองธานี
IONIQ 5 N อนาคตรถยนต์พลังงานไฟฟ้ากับความสนุกในการขับขี่
ในขณะที่สื่อต่าง ๆ รวมถึง TNN Tech ได้ให้ความสนใจในการพัฒนา IONIQ 5 N เป็นพิเศษ เนื่องจากทางฮุนไดเล่าว่า Elantra N จะเป็นรุ่นที่เปิดตลาด ซึ่งได้เตรียมพร้อมในการนำรุ่นอื่น ๆ ในตระกูล N เข้ามาทำตลาดในไทยด้วยเช่นกัน ซึ่งฮุนไดมองว่า IONIQ 5 N เป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้าไม่กี่แบรนด์ในโลกที่สามารถมอบประสบการณ์การขับขี่ที่เทียบชั้นกับรถยนต์เครื่องยนต์สันดาปได้
TNN Tech ได้ถามว่า IONIQ 5 N มีความท้าทายในการพัฒนาตัวรถอย่างไร เพื่อให้มีประสบการณ์การขับขี่ในระดับเดียวกันกับรถยนต์เครื่องยนต์สันดาปได้
แจฮยอน กวาง ได้ให้คำตอบว่า จุดท้าทายหลัก ๆ มีอยู่ 2 อย่าง คือการลดน้ำหนักโดยรวมของตัวรถ เนื่องจากรถยนต์พลังงานไฟฟ้ามีน้ำหนักสูงจากตัวแบตเตอรี่ ซึ่งทำให้การเข้าโค้งและการขับขี่บนสนามอาจไม่ได้รับอย่างเต็มที่ และการพัฒนาเบรกให้มีประสิทธิภาพสูงมากขึ้น เพื่อคงความสนุกในการขับขี่เอาไว้
นอกจากนี้ ยังมีสื่อถามฮุนไดว่า IONIQ 5 N จะนำเข้ามาจัดจำหน่ายในไทยหรือไม่ ซึ่งทางฮุนไดได้ให้คำตอบว่ามีความเป็นไปได้ว่าจะมีการนำเข้ามาจำหน่ายในเร็ว ๆ นี้ แต่ไม่ได้ระบุกรอบเวลาที่ชัดเจนเอาไว้ แต่ แจฮยอน กวาง ก็เชื่อว่าหากมีความต้องการจากลูกค้าชาวไทย ทางฮุนไดก็พร้อมที่จะเปิดตลาดตามความคาดหวังในอนาคตได้เช่นกัน
ที่มารูปภาพ Hyundai