รีเซต

เปิดพื้นที่ 5 จว.ช้ำหนัก! เจอโควิดระลอกใหม่ฉุดการค้า-ท่องเทียวสูญ 1.4 แสนลบ.

เปิดพื้นที่ 5 จว.ช้ำหนัก! เจอโควิดระลอกใหม่ฉุดการค้า-ท่องเทียวสูญ 1.4 แสนลบ.
TNN ช่อง16
13 มกราคม 2564 ( 19:54 )
52

วันนี้ ( 13 ม.ค. 64 )จากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด -19) ระลอกใหม่ที่กระจายไปทุกภูมิภาคอย่างรวดเร็ว และนำไปสู่การใช้มาตรการควบคุมการแพร่ระบาดตามระดับพื้นที่ควบคุม แม้ยังไม่ยกระดับเป็นมาตรการล็อกดาวน์เหมือนการระบาดเมื่อเดือนเมษายน 2563 แต่ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจชะลอตัวลงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยเฉพาะผลกระทบต่อภาคการค้าและการท่องเที่ยว ซึ่งรวมถึงร้านอาหาร สถานบันเทิง สะท้อนจากพฤติกรรมของผู้บริโภคที่ใช้จ่ายและท่องเที่ยวแผ่วลงอย่างเห็นได้ชัด


ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ทีเอ็มบี หรือ TMB Analytics ประเมินผลกระทบของสถานการณ์โควิดระลอกใหม่ต่อภาคการค้าและภาคการท่องเที่ยวในไตรมาสแรกปี2564 จาก 3 ปัจจัยประกอบกัน ได้แก่ 

 

1 .ระดับความรุนแรงตามพื้นที่การระบาด 

2.การพึ่งพิงภาคการค้าและภาคการท่องเที่ยว 

3.รายได้จากกิจกรรมทางเศรษฐกิจของจังหวัด (GPP) พบว่าในภาพรวม ไทยมีสัดส่วนการพึ่งพิงภาคการค้าและการท่องเที่ยวกว่า 22% ต่อ GPP รวมทั้งประเทศ และมีการจ้างงานรวมกัน 6.9 ล้านคน


ซึ่งคาดว่าผลกระทบจากสถานการณ์โควิดจะทำให้รายได้จากภาคการค้าและการท่องเที่ยวลดลงรวมกันกว่า 1.4 แสนล้านบาท


หากเจาะพื้นที่จังหวัดแรกที่ได้รับผลกระทบต่อภาคการค้าและการท่องเที่ยวสูง พบว่าส่วนใหญ่อยู่กลุ่มพื้นที่ควบคุมสูงสุด ได้แก่ 

 

กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นศูนย์กลางธุรกิจ มีรายได้จากกิจกรรมทางเศรษฐกิจ (GPP) สูงสุดของประเทศ และมีสัดส่วนการพึ่งพิงภาคธุรกิจการค้าและการท่องเที่ยวมากถึง 33% มีการจ้างงาน 2.1 ล้านคน คาดรายได้ภาคการค้าและการท่องเที่ยวจะลดลง 81,424 ล้านบาท 


รองมาเป็น ชลบุรี ซึ่งเป็นจังหวัดที่มีรายได้ GPP สูงเป็นอันดับ 3 ของประเทศ และมีสัดส่วนการพึ่งพิงภาคการค้าและการท่องเที่ยว 19% มีการจ้างงาน 2.7 แสนคน ทำให้ผลกระทบต่อรายได้อยู่ที่ 15,463 ล้านบาท 

 

ส่วนภูเก็ตซึ่งเป็นจังหวัดที่มี GPP เป็นอันดับ 2 ของภาคใต้ และมีสัดส่วนการพึ่งพิงภาคการค้าและการท่องเที่ยวสูงถึง 53% มีการจ้างงาน 1.5 แสนคน ผลกระทบต่อรายได้อยู่ที่ 2,799 ล้านบาท 


ในขณะที่ ระยองและสมุทรสาคร ซึ่งอยู่ในกลุ่มพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดเช่นเดียวกับชลบุรี แต่มีสัดส่วนพึ่งพิงภาคการค้าและการท่องเที่ยวต่ำกว่าโดยอยู่ที่ 8%และ 15% ทำให้ผลกระทบต่อรายได้ลดลงน้อยกว่าอยู่ที่ 2,748 ล้านบาท และ 2,682 ล้านบาท ตามลำดับ


ดังนั้นภาครัฐควรเร่งออกมาตรการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจ ตามระดับผลกระทบของธุรกิจในแต่ละพื้นที่  เช่น ธุรกิจค้าปลีกทั่วไป ร้านอาหาร โรงแรม และสถานบันเทิง ฯลฯ ซึ่งมีการจ้างงานอยู่กว่า 6.9 ล้านคน อาทิ มาตรการพยุงค่าครองชีพของแรงงานที่อยู่ในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ มาตรการรักษาสภาพการจ้างงานของภาคธุรกิจ  ตลอดจนแนะทุกภาคส่วนร่วมปฏิบัติตามมาตรการของ ศบค.อย่างเคร่งครัด เพื่อให้สถานการณ์การระบาดกลับเข้าสู่ปกติโดยเร็ว

 

เกาะติดข่าวที่นี่
website: www.TNNThailand.com
facebook : TNNThailand
facebook live : TNN Live
twitter : @TNNThailand
Line : @TNNONLINE
Youtube Official : TNNThailand
Instagram : @tnn_online
TIKTOK : @tnnonline


ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง