'ศรีสุวรรณ' ยัน 'วัฒนา อัศวเหม' พร้อมกลับมาสู้คดีโครงการบ่อบำบัดน้ำเสียคลองด่าน
!['ศรีสุวรรณ' ยัน 'วัฒนา อัศวเหม' พร้อมกลับมาสู้คดีโครงการบ่อบำบัดน้ำเสียคลองด่าน](https://cms.dmpcdn.com/contentowner/2020/03/25/42cd3c40-6e5a-11ea-b8a2-09037777d4af_original.png)
!['ศรีสุวรรณ' ยัน 'วัฒนา อัศวเหม' พร้อมกลับมาสู้คดีโครงการบ่อบำบัดน้ำเสียคลองด่าน](https://cms.dmpcdn.com/news/2020/04/19/83b392f0-81e1-11ea-9d49-77b41a5f9943_original.jpeg)
“ศรีสุวรรณ จรรยา” ยัน “วัฒนา อัศวเหม” พร้อมกลับมาสู้คดีโครงการบ่อบำบัดน้ำเสียคลองด่าน
วันที่ 19 เมษายน นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า ตามที่คณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้รับเรื่องกล่าวหาจากนายตุลย์ ศิริกุลพิพัฒน์ นายเฉลา ทิมทอง กรมควบคุมมลพิษ กองบังคับการกองปราบปราม และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ต่อมามีคำสั่งแต่งตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนโดยมี น.ส.สุภา ปิยะจิตติ เป็นประธานฯ กรณีกล่าวหานายวัฒนา อัศวเหม เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ว่ากระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ กรณีใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่รัฐมนตรี ข่มขืนใจ หรือจูงใจให้เจ้าหน้าที่ของรัฐ สังกัดองค์การบริหารส่วนตำบล ( อบจ.) คลองด่าน อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ จัดประชุมสภา อบต.เพื่อให้ความเห็นชอบเกี่ยวกับการอนุญาตให้ใช้พื้นที่ก่อสร้างอาคารโครงการจัดการน้ำเสีย และได้มีการจัดทำหลักฐานการประชุมสภาฯเป็นเท็จ เพื่อนำหลักฐานการพิจารณาอนุญาตดังกล่าวไปใช้ประกอบการเบิกเงินค่าที่ดิน ที่นายวัฒนามีส่วนได้เสียและได้รับประโยชน์จากเงินค่าที่ดิน
“เมื่อวันที่ 15 เมษายน 2563 สำนักงาน ป.ป.ช. ได้มีหนังสือยืนยันมาถึงนายวัฒนา ว่าคณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้พิจารณาแล้วเห็นว่า จากการไต่สวนข้อเท็จจริง ไม่ปรากฏหลักฐานชัดเจนว่าการเร่งรัดของนายวัฒนา เป็นการข่มขืนใจหรือไม่ และต่อมาศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีคำพิพากษา อม.2/2552 แล้ว ซึ่งเกินกว่าระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดทำให้คดีขาดอายุความ สิทธิในการนำคดีอาญาไปฟ้องศาลย่อมระงับไปด้วย ตาม ป.วิ.อาญา มาตรา 39(6) กรณีดังกล่าวสอดคล้องกับกรณีที่สำนักงาน ป.ป.ช. มีหนังสือเมื่อวันที่ 30 กันยายน 2562 ถึงนายณรงค์ ยอดศิรจินดา อดีตประธาน อบต.คลองด่าน นายวรเดช หรือบุญลือ โพธิ์อรุณ และนายชะเอม ปู้มิ้ม อดีต ส.อบต.คลองด่าน ที่เคยถูกกล่าวหาว่าร่วมกันกระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ในกรณีดังกล่าว ซึ่งคณะกรรมการ ป.ป.ช.มีมติและมีหนังสือยืนยันมาแล้วว่า ไม่ปรากฏข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานเพียงพอที่จะฟังได้ว่าบุคคลทั้ง 3 คนได้กระทำความผิดตามที่กล่าวหาจึงมีมติให้ข้อกล่าวหาตกไปแล้ว” นายศรีสุวรรณกล่าว
นายศรีสุวรรณกล่าวอีกว่า ประเด็นดังกล่าวสมาคมฯเห็นว่าเมื่อหลักฐานซึ่งเป็นเอกสารของทางราชการจากองค์กรอิสระยืนยันชัดเจน ก็ควรที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งรัฐบาล กระทรวงยุติธรรม สำนักงานอัยการ หรือหน่วยงานอื่น ต้องเสนอเรื่องพร้อมหลักฐานใหม่ไปยังศาลที่มีคำพิพากษาไปแล้ว เพื่อรื้อฟื้นคดีความต่าง ๆ ที่เกี่ยวพันกับข้อกล่าวหาดังกล่าว โดยเปิดโอกาสให้นายวัฒนา อัศวเหม กลับมาสู้คดีอีกครั้งตามสิทธิที่รัฐธรรมนูญบัญญัติ ซึ่งบุคคลใกล้ชิดกับนายวัฒนา ได้ยืนยันว่านายวัฒนา พร้อมที่จะกลับมาต่อสู้คดีในศาลเพื่อทำความจริงให้ปรากฏ เพื่อความเป็นธรรมต่อไป