รัสเซียจัดทัพเต็มพิกัด 20เรือรบ 50บินขับไล่ ยิงมิสไซล์ เขย่าขวัญยูเครน

รัสเซียจัดทัพเต็มพิกัด - วันที่ 20 เม.ย. เดลีเมล์ รายงานสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างรัสเซียและยูเครนว่า เรือรบรัสเซียมากกว่า 20 ลำ ร่วมซ้อมรบกับเครื่องบินขับไล่ของกองทัพอากาศรัสเซียในทะเลดำ

เรือรบประกอบด้วย เรือพิฆาต เรือรบขีปนาวุธ และเรือต่อต้านเรือดำน้ำ ร่วมกับฝูงเครื่องบินขับไล่ที่บินที่ระดับความสูงต่ำมากท่ามกลางสภาพอากาศยากลำบาก'

กระทรวงกลาโหมรัสเซียกล่าวว่า เครื่องบินขับไล่มากกว่า 50 ลำ เคลื่อนกำลังไปไปคาบสมุทรไครเมีย และเผยแพร่หลักฐานยืนยันเป็นภาพถ่ายดาวเทียมของฐานทัพอากาศคาบสมุทรไครเมีย 2 แห่ง คือ คีรอฟสโกเย และซาคี

นอกจากนี้ กองเรือทะเลดำของรัสเซียซ้อมรบต่อต้านการก่อวินาศกรรม ยิงขีปนาวุธ และภารกิจฝึกการรบใต้น้ำด้วย

สำนักข่าวรัสเซียอ้างกระทรวงกลาโหมรายงานเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่ามอสโกตั้งใจที่จะปิดบางส่วนของทะเลดำให้ทหารต่างชาติและเรือของทางการเป็นเวลา 6 เดือน

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อการเข้าถึงท่าเรือของยูเครนในทะเลอาซอฟ ซึ่งเชื่อมต่อกับทะเลดำผ่านช่องแคบเคิร์ชทางด้านตะวันออกของไครเมีย

เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมากระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอธิบายถึงแผนดังกล่าวว่าเป็นการยกระดับที่ไม่ได้พิสูจน์ในการรณรงค์อย่างต่อเนื่องของมอสโกเพื่อบ่อนทำลายและทำให้ยูเครนไม่มั่นคง

สหภาพยุโรปเรียกสิ่งนี้ว่า 'การพัฒนาที่น่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง' ในขณะที่องค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ หรือ NATO ยังแสดงความกังวลและเรียกร้องให้รัสเซียรับประกัน 'การเข้าถึงอย่างเสรี' ไปยังท่าเรือของยูเครน

ดมิทรี เปสคอฟ โฆษกรัฐบาลรัสเซีย แย้งว่าการปิดน่านฟ้าดังกล่าวเป็นแนวปฏิบัติสากลทั่วไป

ความเคลื่อนไหวทางทัพเรือ เพิ่มความตึงเครียดทางทัพบก จากการที่ทหารรัสเซีย 150,000 นาย ก่อสร้างกองทัพในค่ายทหารประชิดพรมแดนยูเครนและคาบสมุทรไครเมีย ซึ่งอยู่ในระดับสูงสุดอย่างไม่เคยมีมาก่อนเมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ตั้งแต่รัสเซียรุกรานคาบสมุทรไครเมียมาเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซียใน 2557

ขณะที่ทางการรัสเซียระบุว่า ทหารประชิดพรมแดนยูเครนเป็นการซ้อมรบเพื่อตอบโต้ภัยคุกคามจากนาโต้ ส่วนว่าปิดน่านฟ้าที่ทำในทะเลดำเป็นข้อปฏิบัติตามปกติระหว่างประเทศ

ด้านนายดมีโตร คูเลบา รัฐมนตรีต่างประเทศยูเครน กดดันให้สหภาพยุโรป หรืออียู คว่ำบาตรรัสเซียระลอกใหม่ หลังหารือกับรัฐมนตรีต่างประเทศ 27 ชาติอียู ทว่านายโยเซฟ บอร์เรย์ ผู้อำนวยการนโยบายต่างประเทศอียู บอกว่า ตอนนี้ยังไม่มีมาตรการคว่ำบาตรเพิ่มเติมที่จะเสนอหรือพิจารณาใดๆ