แห่ล่องเรือชมสำเภาจีนและบัวกลางทุ่งสามร้อยยอด
ประจวบคีรีขันธ์- นักท่องเที่ยว แห่เดินทางไปเดินชมเส้นทางศึกษาธรรมชาติบึงบัว และล่องเรือชมความงดงามของบัวหลวงในธรรมชาติภายในทุ่งสามร้อยยอด ซึ่งกำลังออกดอกสีชมพูบานสะพรั่ง และยังได้ชื่นชมถ่ายรูปบนเรือสำเภาจีนเมื่อครั้งในอดีต โดยชุมชนที่ให้บริการเช่าเรือล่องชมบึงบัว ได้นำเรือประมงมาดัดแปลงเป็นเรือสำเภาจีนชื่อว่า”บึงบัว สามร้อยรอด” เมื่อครั้งในอดีตที่มาอับปรางในพื้นที่ นำมาเป็นแลนมาร์คใหม่ให้ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกโดยมีฉากหลังเป็นเทือกเขาสามร้อยยอด
(วันที่ 28 ก.ค.2563) ที่ศูนย์ศึกษาธรรมชาติบึงบัว อุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด ต.ไร่เก่า อ.สามร้อยยอด จ.ประจวบคีรีขันธ์ นายรุ่งโรจน์ อัศวกุลธารินท์ หน.อุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด กว่าว่าในช่วงวันหยุดติดต่อกันมีนักท่องเที่ยวทยอยเดินทางมาเดินเที่ยวชมบนสะพานไม้เส้นทางศึกษาธรรมชาติบึงบัว ซึ่งมีระยะทาง 300 เมตร โดยมีมีอาคารทรงแปดเหลี่ยมหลังใหญ่และหลังเล็กตั้งตระหง่าน เพื่อให้นักท่องเที่ยวที่มาเยือนได้มองเห็นทัศนียภาพของทุ่งน้ำจืดขนาดใหญ่ของทุ่งสามร้อยยอด ได้แบบ360 องศา และสามารถเป็นวิวถ่ายรูปที่สวยงามได้อีกด้วย
นายภักดินัย พึ่งภักดี สมาชิกของชมรมถ่อเรือชมบึงบัว กล่าวว่าปัจจุบันนี้ หลังจากสถานการณ์โควิด-19 ผ่านไปและมีการเปิดให้ท่องเที่ยวชมอุทยานแห่งชาติได้แล้ว ตั้งแต่ต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมานักท่องเที่ยวสามารถใช้บริการเช่าเรือหางยาวของชมรมถ่อเรือชมธรรมชาติบึงบัวราคาเหมาลำละ 500 บาทนั่งได้จำนวน 5 คนพร้อมมีที่บังแดดและเสื้อชูชีพให้นักท่องเที่ยวสวมใส่ทุกคน ออกไปเที่ยวชมบัวหลวงชุดใหม่ซึ่งกำลังออกดอกสีชมพูบ้านสะพรั่งเต็มทุ่งสามร้อยยอดในขณะนี้
นอกจากนั้นสมาชิกชมรมที่ให้บริการเช่าเรือชมบัวในทุ่งสามร้อยยอด ได้นำเรือประมงเก่ามาดัดแปลงต่อเติมใส่ใบเหมือนเรือสำเภาจีนใช้ชื่อเรือว่า”บึงบัวสามร้อยรอด” เขียนติดไว้ที่ข้างเรือ เปรียบเป็นเรือสำเภาจีนในสมัยก่อน นำมาไว้กลางบึงบัว เพื่อเป็นแลนด์มาร์คอีกหนึ่งจุดให้นักท่องเที่ยวได้มาจอดและสามารถขึ้นไปถ่ายรูปเป็นที่ระลึกหรือจะเลือกเซลฟี่กันได้ โดยมีฉากหลังเป็นเทือกเขาสามร้อยยอด ที่ทอดตัวยาวตลอดแนวขนานไปกับทุ่งสามร้อยยอด โดยชาวบ้านที่มาให้บริการขับเรือและถ่อเรือ จะเล่าเรื่องตำนานของชื่อสามร้อยยอด ซึ่งอดีตมีเรือสำเภาจีนมาล่มอยู่ในทะเลสามร้อยยอด เดิมในอดีตชื่อสามร้อยรอด แต่ต่อมาได้เปลี่ยนเป็นสามร้อยยอด อำเภอสามร้อยยอด จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ในปัจจุบัน
นักท่องเที่ยวที่เดินทางมานั่งเรือชมบึงบัวในทุ่งสามร้อยยอด ต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าทุ่งสามร้อยยอด มีความเป็นธรรมชาติอย่างมากไม่คิดว่าในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จะมีสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามโดยเฉพาะบัวที่ออกดอกบานสะพรั่ง และหากมีโอกาสก็จะกลับมาเที่ยวชมใหม่อีกครั้ง ในขณะที่นักท่องเที่ยวส่วนหนึ่งที่เห็นเรือสำเภาจอดอยู่กลางบึงบัว ต่างก็ชื่นชอบและพากันขึ้นไปและถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกันสร้างความสนุกสนานไม่น้อย
ด้านนายรุ่งโรจน์ อัศวกุลธารินท์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด กล่าวว่าปัจจุบันการนั่งเรือชมธรรมชาติในทุ่งสามร้อยยอด ใช้ระยะเวลาไปกลับ 1 ชั่วโมงโดยมีเรือของชมรมรวม 15 ลำที่มาให้บริการ ต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบที่ทำข้อตกลงกันไว้โดยเฉพาะเมื่ออกจากท่าเรือจะต้องใช้ไม้ไผ่ถ่อออกไปจนถึงน้ำลึกจากนั้นจึงจะติดเครื่องยนต์ได้ และแล่นไปตามเส้นทางที่กำหนด รวมทั้งห้ามติดเครื่องยนต์แล่นเข้าไปในบริเวณที่มีบัวหนาแน่นเด็ดขาดให้ใช้วิธีการถ่อเข้าไปเท่านั้น สำหรับเวลาที่เหมาะสมที่สุดคือในช่วงเช้าอากาศไม่ร้อนมากนัก เหมาะกับการชื่นชมธรรมชาติของบัวบานสะพรั่งสวยงาม และยังมีนกน้ำและนกอพยพบินให้เห็นด้วย เมื่อนักท่องเที่ยวกลับมาถึงท่าเรือแล้ว ทางอุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด ยังเปิดให้กลุ่มวิสาหกิจชุมชนบึงบัว นำผลิตภัณฑ์สินค้าแปรรูปต่างๆ ของชุมชนมาวางจำหน่ายเพื่อเป็นรายได้เสริมให้กับชาวบ้านที่อาศัยในชุมชนอีกด้วย มีทั้งผลไม้แปรรูปต่าง ทั้งขนมปังชิคเชค ไส้สับปะรดกวน สับปะรดอบแห้ง ขนุนอบแห้ง มะม่วงอบแห้ง กล้วยฉาบ และอีกหลากหลายชนิด รวมทั้งสัตว์น้ำแปรรูปขึ้นชื่อปลาสลิดแห้ง ปลานิล ปลาช่อนที่ขึ้นชื่อของทุ่งสามร้อยยอด ซึ่งเป็นอาชีพของชาวบ้านที่จับสัตว์น้ำอยู่ในทุ่ง บรรจุผลิภัณฑ์อย่างดีมาวางจำหน่าย
โดย 4 วันที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เป็นกลุ่มคนไทยประมาณ 90 เปอร์เซ็นต์ที่เหลือเป็นชาวต่างชาติ เข้าเที่ยวชม ณ ศูนย์ศึกษาธรรมชาติบึงบัว กว่า 1,300 คนโดยทุกคนต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโควิด-19 ตามรูปแบบของอุทยานทั่วประเทศ และสิ่งที่ได้รับความสนใจอยู่ในขณะนี้เป็นทั้งธรรมชาติของบัวหลวง บัวสาย ที่ออกดอกชูช่อ ตลอดจนเรือสำเภาจีนซึ่งทางชมรมถ่อเรือบึงบัว ได้ขออนุญาตทางอุทยานนำไปวางไว้ให้นักท่องเที่ยวได้ชมและขึ้นถ่ายรูปเป็นที่ระลึก ทราบว่าเป็นที่ชื่นชอบในขณะที่สิ่งสำคัญคือทำให้ชุมชนมีรายได้เสริม
# 77 ข่าวเด็ดประจวบคีรีขันธ์ (วิมล ทับคง รายงาน)