รีเซต

ตร.สั่งตั้งทีมสอบสวนชุดพิเศษ เร่งสางคดีโกงงบเราชนะ 6.4 แสนบาท กลุ่มเปราะบางบ้านประจวบโชค

ตร.สั่งตั้งทีมสอบสวนชุดพิเศษ เร่งสางคดีโกงงบเราชนะ 6.4 แสนบาท กลุ่มเปราะบางบ้านประจวบโชค
มติชน
10 พฤศจิกายน 2564 ( 11:03 )
64
ตร.สั่งตั้งทีมสอบสวนชุดพิเศษ เร่งสางคดีโกงงบเราชนะ 6.4 แสนบาท กลุ่มเปราะบางบ้านประจวบโชค

จากกรณีที่สถานคุ้มครองคนไร้ที่พึ่งประจวบคีรีขันธ์ หรือบ้านประจวบโชค ที่ดูแลผู้ด้อยโอกาสกลุ่มเปราะบาง ผู้มีอาการทางจิตและประสาท ต.อ่าวน้อย อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ แจ้งความที่ สภ.อ่าวน้อย เมื่อเดือนมิถุนายน 2564 ดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้อง ภายหลังเจ้าหน้าที่นำเลขบัตรประชาชน 13 หลัก รหัสผ่าน 6 หลักในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐของผู้ด้อยโอกาส 153 ราย สแกนแลกเงินสดในร้านค้าหลายพื้นที่ ทุจริตงบประมาณของรัฐในโครงการเราชนะ ซึ่งเป็นสิทธิของกลุ่มเปราะบาง 2 งวด รวมรายละ 9,000 บาท พบมูลค่าความเสียหาย 644,923 บาท

 

เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน ร.ต.อ.สุรนันท์ มีพันธ์ พนักงานสอบสวน สภ.อ่าวน้อย เจ้าของคดีเปิดเผยว่า ขณะนี้มีผู้ต้องหาเพียงรายเดียว หลังจากนายอิทธิพล พันธ์จบสิงห์ อายุ 30 ปี อดีตลูกจ้างชั่วคราว ผู้ดูแลอาคารที่พักชาย รับทราบข้อกล่าวหาฐานใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น หรือประชาชน ทำให้เสียหาย ทำลายซ่อนเร้น เอาไปเสียหรือทำให้ผู้อื่นไร้ประโยชน์ และฉ้อโกงทรัพย์โดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น นายอิทธิพลรับสารภาพว่าทุจริตในการเบิกจ่าย 21,000 บาท แต่คืนเงินให้ทางราชการแล้ว ส่วนการทุจริตอีก 153 คน วงเงินรวม 6.4 แสนบาท ได้ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา

 

ร.ต.อ.สุรนันท์กล่าวว่า ได้มอบสำนวนการสอบสวนให้ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (ผบก.ภ.จว.) ประจวบคีรีขันธ์ มีคำสั่งตั้งคณะพนักงานสอบสวนชุดพิเศษเพื่อสะสางคดีให้รวดเร็ว ก่อนสรุปสำนวนส่งอัยการสั่งฟ้อง เนื่องจากมีการตรวจสอบสารบบการใช้จ่ายเงินในโครงการเราชนะจากสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการคลัง พบว่าผู้ต้องหานำบัตรอิเล็กทรอนิกส์ไปเบิกเงินสดจากร้านค้าใน อ.ปราณบุรี อ.กุยบุรี อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ และ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี ต้องใช้พนักงานสอบสวนลงพื้นที่พบสอบปากคำร้านค้าเป้าหมายจำนวนมาก

 

แหล่งข่าวจากทีมพนักงานสอบสวน ภ.จว.ประจวบคีรีขันธ์ แจ้งว่าพบบุคคลอื่นที่ไม่ใช่ผู้ต้องหานำบัตรของกลุ่มเปราะบางไปซื้อสินค้าในร้านจำหน่ายอะไหล่แต่งรถจักรยานยนต์ชื่อดังแห่งหนึ่งในเขตเทศบาลเมืองประจวบคีรีขันธ์ เป็นสินค้าที่ไม่มีความจำเป็นสำหรับผู้ด้อยโอกาส พนักงานสอบสวนจะเรียกสอบร้านค้าทุกร้าน หลังจากมีการจัดตลาดนัด 2 ครั้งในพื้นที่บ้านประจวบโชค เนื่องจากพบว่าผู้ด้อยโอกาสสแกนซื้อเครื่องสำอาง เครื่องประดับ ข้าวไรซ์เบอรี่ ขนมปังรายละ 2 ปี๊บ เกินความจำเป็น เนื่องจากในสถานสงเคราะห์ประกอบอาหารเลี้ยงครบ 3 มื้อ จากนั้นช่วงโควิดระบาด บ้านประจวบโชคเปิดโอกาสให้ร้านค้าภายนอกจัดรายการสินค้าขายผ่านออนไลน์ เพื่อให้กลุ่มเปราะบางใช้เงินสวัสดิการโดยมีร้านค้าบางแห่งเสนอขายสินค้าที่ไม่มีความจำเป็นสำหรับการดำรงชีพของผู้ด้อยโอกาส กระทั่งยุติการซื้อขายหลังพบการทุจริต

 

นอกจากนี้ มีรายงานว่าผู้บริหารกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) มีคำสั่งย้ายนางไพทิพย์ หนูพรม ผู้ปกครองสถานคุ้มครองคนไร้ที่พึ่งประจวบคีรีขันธ์ ไปปฏิบัติงานในหน่วยงานส่วนกลาง โดยมอบหมายให้ผู้ปกครองนิคมสร้างตนเองประจวบคีรีขันธ์ทำหน้าที่รักษาราชการแทน

 

ด้านเจ้าหน้าที่ธนาคารกรุงไทย สาขาประจวบคีรีขันธ์ ระบุว่า พบพิรุธในระบบการเบิกจ่าย จากการตรวจสอบยอดเงินคงเหลือของผู้ใช้บริการกลุ่มเปราะบาง 153 คน พบการทุจริตมีรายชื่อร้านค้าที่เกี่ยวข้องในหลายพื้นที่ จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้เปลี่ยนแปลงรหัสการเข้าถึงสิทธิโครงการเราชนะ จากเดิมใช้รหัสเลข 6 หลัก 123456 เหมือนกันทุกรายเป็นรหัสอื่น พร้อมนำผู้ใช้สิทธิสแกนใบหน้าใหม่ เพื่อป้องกันเจ้าหน้าที่ผู้ดูแลนำรหัสและบัตรไปใช้สวมสิทธิ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง