รีเซต

คาดถกภาษีญี่ปุ่น-สหรัฐฯจบยาก ตลาดให้น้ำหนักเจรจาสำเร็จ 33%

คาดถกภาษีญี่ปุ่น-สหรัฐฯจบยาก ตลาดให้น้ำหนักเจรจาสำเร็จ 33%
ทันหุ้น
17 มิถุนายน 2568 ( 14:51 )
14

 

#หุ้นสหรัฐ #ทันหุ้น – บทวิเคราะห์ โดย บล.เอเซียพลัส

.

ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดบวกในวันจันทร์ที่ผ่านมา (DJIA +0.75, S&P500 +0.94%, Nasdaq+1.52%) หลังมีรายงานจากรอยเตอร์ว่าอิหร่านส่งสัญญาณพร้อมเจรจาเพื่อยุติการสู้รบกับอิสราเอลแม้ว่าข่าวดังกล่าวไม่ได้รับการยืนยัน อีกทั้งตลาดได้แรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี นำโดย AMD+8.81%, Meta Platforms +2.82% และ Nvidia+1.92% ทั้งนี้ นักลงทุนจับตาผลการประชุม FOMC ในวันพรุ่งนี้ แม้จะมีรายงานข่าวว่าอิหร่านส่งสัญญาณพร้อมเจรจาเพื่อยุติการสู้รบกับอิสราเอล อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรีอิสราเอล Netanyahu ได้ตั้งเป้าหมายไปที่ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน AliKhamenei โดยระบุว่า “จะเป็นการยุติความขัดแย้ง ไม่ใช่ก่อให้เกิดการบานปลาย” ซึ่งก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดี Donald Trump ได้เคยปฏิเสธแผนของอิสราเอลในการสังหารผู้นำสูงสุดของอิหร่าน เนื่องจากกังวลว่าจะทำให้สถานการณ์ลุกลามออกไป

.

ล่าสุดทางทำเนียบข่าวรายงานว่า Trump ได้ออกจากการประชุม G7ที่แคนาดาก่อนกำหนด เนื่องจากสถานการณ์ในตะวันออกกลาง โดยจะเดินทางกลับกรุงวอชิงตันในคืนนี้ อีกทั้ง Trump ได้ระบุผ่านแพลตฟอร์ม Truth Social ว่า “อิหร่านควรจะลงนามในข้อตกลง ซึ่งพูดตรงๆ คือ อิหร่านไม่สามารถมีอาวุธนิวเคลียร์ได้ และทุกคนควรอพยพออกจากเตหะรานทันที”

.

นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น Ishiba ระบุว่า ยังคงมีความเห็นที่ไม่สอดคล้องกับสหรัฐฯ เกี่ยวกับภาษีศุลกากร โดยเน้นย้ำถึงความจำเป็นของข้อตกลงแบบ "แพ็กเกจ" ที่จะปกป้องผลประโยชน์ของญี่ปุ่น อีกทั้งได้กล่าวว่า “ภาคส่วนยานยนต์เป็นส่วนสำคัญของผลประโยชน์ระดับชาติของญี่ปุ่นที่ควรได้รับการปกป้อง โดยที่สหรัฐฯ ได้กำหนดภาษีนำเข้าที่สูงขึ้นสำหรับรถยนต์และชิ้นส่วนรถยนต์รวมถึงสินค้าอื่นๆ ด้วย”

.

Trump ได้ลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหาร โดยจะอนุญาตให้สหรัฐฯ นำเข้ารถยนต์จากสหราชอาณาจักรได้สูงสุด 100,000 คันต่อปี โดยเก็บภาษีเพียงอัตรา 10% (จากเดิมที่ 25%) และจะยกเลิกการจัดเก็บภาษีศุลกากรสำหรับสินค้าด้านการบินจากสหราชอาณาจักรที่อยู่ภายใต้ข้อตกลง WTO เรื่องการค้าสินค้าการบินพลเรือน ซึ่งเป็นไปตามข้อตกลงที่ทั้งสองประเทศได้ ข้อสรุปตั้งแต่ช่วงต้นเดือนพฤษภาคม ขณะที่ทางสหราชอาณาจักรจะขยายโควตาการนำเข้าเนื้อวัวจากสหรัฐฯ จาก 1,000 สู่ระดับ 13,000 ตัน

.

AMD (AMD US) +8.81% หลัง CEO Lisa Su เปิดตัวชิป AI รุ่นใหม่ในงาน “Advancing AI 2025” พร้อมประกาศมุมมองเชิงบวกว่าตลาดชิป AI ทั่วโลกจะขยายตัวจาก $4.5 หมื่นล้าน ในปี 2023 สู่ระดับกว่า $5 แสนล้าน ภายในปี 2028 หรือโตเฉลี่ยต่อปีมากกว่า 60% ซึ่งกระตุ้นความเชื่อมั่นของนักลงทุนและทำให้เกิดแรงเข้าซื้อเก็งกำไรในหุ้น AMD ทันที

.

Meta Platforms (META US) +2.90% หลังเตรียมเพิ่มโฆษณาใน WhatsApp ครั้งแรก เปิดโอกาสสร้างรายได้มหาศาล ซึ่งนโยบายใหม่ของ Meta ต่อ WhatsApp ครั้งนี้นับเป็นการเปลี่ยนแปลงแนวทางเชิงกลยุทธ์อย่างมีนัยสำคัญ โดยตลอดระยะเวลากว่า 10 ปีที่ผ่านมา WhatsApp แทบจะปลอดโฆษณามาโดยตลอด แม้ Meta จะเข้าซื้อกิจการไปด้วยมูลค่าสูงถึง $1.9 หมื่นล้านตั้งแต่ปี 2014 จนทำให้ WhatsApp กลายเป็นหนึ่งในบริการส่งข้อความที่ได้รับความนิยมสูงสุดในโลก แต่กลับยังไม่ได้ถูกนำมาสร้างรายได้ในระดับเดียวกับ Facebook และ Instagram

.

ฝ่ายกลยุทธ์ฯ ยังคงมีมุมมองเชิงบวกและแนะนำเก็งกำไรต่อหุ้น Meta Platforms ภายใต้บริบทของการทยอยขยายฐานรายได้ใหม่ผ่าน WhatsApp ซึ่งถือเป็นสินทรัพย์ที่บริษัทถือครองมานานกว่า 10ปี โดยยังไม่ได้ถูก Monetized อย่างเต็มศักยภาพ การตัดสินใจเพิ่มโฆษณาเข้าสู่แพลตฟอร์ม WhatsApp จึงสะท้อนถึงการปลดล็อกโอกาสการเติบโตของรายได้เพิ่มเติมในช่วงหลายปีข้างหน้า ขณะที่โครงสร้างธุรกิจโฆษณาหลักของ Meta ยังรักษาความสามารถในการแข่งขันได้ดีทั้งใน Facebook และ Instagram

.

- Kering (KER FP) +9.94% สวนทางกับ Renault (RNO FP) -6.41% หลังมีรายงานว่า Luca de Meo เตรียมก้าวสู่บทบาทใหม่ นั่งเก้าอี้ CEO แห่ง Kering หลังสร้างผลงานโดดเด่นใน Renault โดยผลงานของ Luca de Meo ในการบริหาร Renault ตลอดระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมาได้รับการยกย่องอย่างมาก โดยเขาเข้ารับตำแหน่งในปี 2020 ขณะที่บริษัทกำลังเผชิญภาวะขาดทุนอย่างหนักจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของ COVID-19 ทันทีที่เข้ามารับหน้าที่ DeMeo ได้ดำเนินมาตรการฟื้นฟูองค์กรครั้งใหญ่ เริ่มจากการปรับลดต้นทุน ลดจำนวนพนักงานทั่วโลก และตัดกำลังการผลิตส่วนเกิน เพื่อทำให้บริษัทมีขนาดเล็กลงแต่มีความคล่องตัวสูงขึ้น นอกจากนี้ เขายังเร่งปรับโครงสร้างความร่วมมือระยะยาวกับ Nissan ซึ่งมีความสัมพันธ์ซับซ้อนมาตลอดกว่า 20 ปีให้มีความสมดุลมากขึ้น ขณะเดียวกันก็เร่งผลักดันการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าและไฮบริดอย่างจริงจังเพื่อรองรับทิศทางการเปลี่ยนผ่านของอุตสาหกรรมยานยนต์โลก

.

- ฝ่ายกลยุทธ์ฯ มองแม้ข่าวการดึงตัว Luca de Meo มารับตำแหน่ง CEO ของ Kering ยังไม่ได้รับการยืนยันอย่างเป็นทางการ แต่กระแสข่าวดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงความพยายามของบริษัทในการปรับกลยุทธ์และโครงสร้างการบริหารท่ามกลางความท้าทายเชิงโครงสร้างที่กำลังกดดันแบรนด์หลักอย่าง Gucci อย่างไรก็ตาม ฝ่ายกลยุทธ์ฯ ยังคงมีมุมมองเชิงระมัดระวังต่อการเข้าลงทุนในหุ้น Kering ในช่วงเปลี่ยนผ่านนี้ เพราะแม้การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้จะมีศักยภาพเปิดทางสู่โอกาสใหม่ แต่ Execution risk ยังคงอยู่ในระดับสูง และต้องใช้เวลาพอสมควรกว่าผลลัพธ์เชิงกลยุทธ์จะเริ่มชัดเจน สำหรับนักลงทุนที่ต้องการเก็งกำไรในกลุ่มลักชัวรีระยะสั้น

 

ฝ่ายกลยุทธ์ฯ มองว่า Hermes และ Richemont ยังคงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจกว่า เนื่องจากมีความต่อเนื่องของแบรนด์ โมเมนตัมยอดขาย และความแข็งแรงของฐานลูกค้า High-end ที่ชัดเจนและเสถียรกว่าในปัจจุบัน

.

- รายงานตัวเลขเศรษฐกิจจีน Retail Sales เดือน พ.ค. ขยายตัว +6.4% YoY (ตลาดคาด+4.9%) เร่งตัวขึ้นจากเดือนก่อนหน้า (+5.1%) และเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ธันวาคม 2023 โดยการเร่งตัวของยอดค้าปลีกได้แรงหนุนจากปัจจัยพิเศษ เช่น วันหยุดแรงงาน การเริ่มต้นเทศกาล 618 (เทศกาลช้อปปิ้งออนไลน์ขนาดใหญ่) เร็วกว่าปกติ และมาตรการอุดหนุนการบริโภคของภาครัฐ (Trade-in program) โดยเฉพาะยอดขายเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือนที่พุ่ง +53% YoY และมือถือ +33% YoY ในขณะที่ Industrial Production เดือน พ.ค. ขยายตัว5.8% YoY ชะลอลงจากเดือนก่อนและที่ตลาดคาดที่ 6.0% และ 6.1% ตามลำดับ

.

ติดตามรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ ในวันนี้ อาทิ Retail Sales เดือน พ.ค.(ตลาดคาด +0.2 MoM vs. เดือนก่อน +0.1%) และ Industrial Production เดือน พ.ค. (ตลาดคาดและเดือนก่อนที่ +0.0% MoM) รวมทั้งผลการประชุมของธนาคารกลางญี่ปุ่น ซึ่งตลาดคาดว่าจะคงนโยบายการเงินเช่นเดิม ทั้งในส่วนอัตราดอกเบี้ยและการลดขนาดงบดุล

 

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง