คลังเตรียมชงบอร์ดEV ปรับเงื่อนไขการจ่ายเงินสมทบให้ค่ายรถยนต์

คลังเตรียมชงบอร์ด EV ปรับเงื่อนไขการจ่ายเงินสมทบให้ค่ายรถยนต์ ในกรณีที่ไม่สามารถทำตามเงื่อนไขการผลิตรถยนต์ EV ชดเชยการนำเข้าได้

#ทันหุ้น นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังเปิดเผยว่า กระทรวงการคลังจะเสนอบอร์ด EV ปรับเงื่อนไขการจ่ายเงินสมทบให้กับค่ายรถยนต์ EV ที่เข้าร่วมโครงการสนับสนุนการใช้รถ EV ในกรณีที่ไม่สามารถทำได้ตามเงื่อนไข การผลิตรถยนต์ EV ชดเชยการนำเข้า

เขากล่าวว่า เมื่อสัปดาห์ที่แล้วบริษัท NETA ได้เข้าหารือกับกรมสรรพสามิต ซึ่งมีประเด็นที่กรมสรรพสามิตได้ ระงับการจ่ายเงินสมทบให้กับ NETA ตามโครงการการสนับสนุนการใช้รถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งรัฐอุดหนุนให้กับผู้ซื้อรถยนต์คันละ ไม่เกิน 1.5 แสนบาท โดยบริษัทรถยนต์ไฟฟ้า ได้ให้ส่วนลดให้กับผู้ซื้อรถยนต์ แล้วบริษัทรถยนต์มาเคลมจากรัฐ โดยมีเงื่อนไขตาม มาตรการ EV 3.0 ว่า ภายในปีนี้จะต้องผลิตรถ EV ชดเชยการนำเข้าในอัตรานำเข้า 1 คัน ผลิตชดเชย 1.5 คัน  ซึ่งตามเงื่อนไขนี้หมายความว่าในปีนี้NETA ต้องผลิตรถ EV ภายในประเทศ 1.9 หมื่นคัน  แต่ปัจจุบันผลิตไปแล้ว 4 พันคันเท่านั้น

เขากล่าวว่า ที่ผ่านมารัฐได้จ่ายเงินชดเชยภายใต้โครงการสนับสนุนการใช้รถ EV ภายในประเทศ ให้กับNETA ไปแล้วราว 2 พันกว่าล้านบาท แต่หลังจากบริษัท NETA มีปัญหาสภาพคล่องและไม่สามารถผลิตรถชดเชยได้ตามแผน กรมสรรพสามิตได้ระงับการจ่ายเงินชดเชยให้กับบริษัทไปแล้ว 400 ล้านบาท

เขากล่าวว่า เพื่อให้เกิดความชัดเจนในเรื่องมาตรการการระงับการจ่ายเงินชดเชยให้กับค่ายรถยนต์ EV ที่ไม่สามารถปฏิบัติได้ตามเงื่อนไขในเรื่องการผลิตรถ EV ชดเชยการนำเข้า กระทรวงการคลัง จะเสนอให้บอร์ด EV พิจารณากำหนดเงื่อนไขการระงับการจ่ายเงินชดเชย กล่าวคือ บริษัทรถ EV จะต้องทำแผนการผลิตรถยนต์ EV ชดเชย โดยจัดทำเป็นแผนการผลิตทุก 2 เดือน หากไม่สามารถทำตามแผนได้รัฐมีสิทธิ์ระงับการจ่ายเงินชดเชย

เขากล่าวว่า ปัจจุบันการระงับการจ่ายเงินชดเชยให้กับค่ายรถ EV จะต้องรอให้จนสิ้นสุดระยะเวลาที่กำหนด เช่น กรณีมาตรการ EV 3.0 จะต้องผลิตรถชดเชยภายในสิ้นธ.ค. 2025 จำนวน 1.5 เท่าของที่นำเข้า ดังนั้นหากตอนนี้ค่ายรถยนต์มีแนวโน้มที่ไม่สามารถผลิตรถยนต์ได้ตามเป้าหมายในปีนี้ เราก็ยังไม่สามารถทำอะไรได้ ต้องรอจนกว่าจะถึงสิ้นปีนี้

สำหรับที่กรมสรรพสามิต ระงับการจ่ายเงินชดเชยให้กับ NETA จำนวน 400 ล้านบาทดังกล่าว กรมได้ใช้มาตรการภายในของกรมดำเนินการ แต่จำเป็นต้องทำให้เป็นมาตรการที่ชัดเจน เพื่อรองรับกรณีที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

ทั้งนี้ขากล่าวว่า สำหรับผู้ที่ซื้อรถ EV ไปแล้ว จะไม่ได้รับผลกระทบจากมาตรการที่รัฐได้ให้การอุดหนุนไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการให้เงินอุดหนุนการใช้รถ EV คันละไม่เกิน 1.5 แสนบาท ซึ่งบริษัทรถยนต์ EV ที่เข้าร่วมโครงการนี้กับรัฐ ได้ให้เป็นส่วนลดราคาแก่ผู้บริโภคไปแล้ว รวมถึงการที่กรมสรรพสามิตได้ลดภาษีสรรพสามิตรถ EV เหลือ 2 % จากเดิมที่อยู่ที่ 8 %