'บิ๊กตู่' ถกทีมศก. ดึงกำไรหน้าโรงกลั่น 6 พันล.อุดกองทุนน้ำมัน เล็งลดเบนซินลิตรละ 1 บาท
เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน ที่ห้องสีเขียว ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมหารือมาตรการเศรษฐกิจเพื่อบรรเทาผลกระทบของประชาชน อันเนื่องมาจากราคาพลังงานที่ปรับตัวสูงขึ้น โดยมีนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พลังงาน นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ปลัดกระทรวงการคลัง นายดิตทัศ โหตระกิตย์ เลขาธิการนายกฯ นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย นายเสมอใจ ศุขสุเมฆ ประธานกรรมการกำกับกิจการพลังงาน นายคมกฤช ตัณตระวาณิชย์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการเศรษฐกิจการคลัง นายปกรณ์ นิลประพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา และนายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจ และสังคมแห่งชาติ เข้าร่วมการประชุม
นายกรัฐมนตรี ระบุว่า จะพิจารณามาตรการช่วยเหลือประชาชนในช่วงที่ราคาสินค้าหลายหมวดทยอยปรับตัวสูงขึ้นจากปัจจัยด้านพลังงานเชื้อเพลิง ตลอดจนวัตถุดิบตั้งต้นของสินค้าบริโภคมีการปรับราคาเพิ่มขึ้น จนผู้ประกอบการหลายรายการชนิดสินค้าได้เรียกร้องขอต่อรัฐบาลในการปรับราคาสินค้า ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อประชาชนโดยตรง การพูดคุยในครั้งนี้จะพิจารณาถึงมาตรการที่ได้สั่งการให้หน่วยงานด้านเศรษฐกิจเตรียมนำมาเสนอเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน ยืนยันว่ารัฐบาลพร้อมจะดำเนินการตามมาตรการที่เสนอมาให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
จากนั้นนายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และนายกุลิศ สมบัติศิริ ร่วมกันแถลงมติที่ประชุม เห็นชอบให้ขยายเวลามาตรการช่วยเหลือประชาชนบางส่วน ที่ใกล้หมดอายุในเดือนมิถุนายนนี้ ออกไปอีก 3 เดือน ไปจนถึงเดือนกันยายน เช่น มาตรการส่วนลด NGV สำหรับแท็กซี่ และส่วนลด LPG สำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
“ส่วนมาตรการที่เพิ่มขึ้นใหม่ คือ การขอความร่วมมือกลุ่มโรงกลั่นน้ำมันให้นำส่งกำไรส่วนหนึ่งจากการกลั่นน้ำมัน เข้าสู่กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง โดยค่าการกลั่นน้ำมันดีเซล คาดว่าจะจัดเก็บได้ประมาณ 5-6 พันล้านบาท ต่อเดือน จะนำเข้าสู่กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ส่วนการจัดเก็บค่าการกลั่นน้ำมันเบนซิน คาดว่าจะได้ 1 พันล้านบาท ต่อเดือน ส่วนนี้จะนำมาลดราคาน้ำมันเบนซินให้กับผู้ใช้ทันที คาดว่าจะลดลงลิตรละ 1 บาทจากราคาปัจจุบัน นอกจากนี้จะขอความร่วมมือโรงแยกก๊าซ แบ่งกำไรส่วนเกิน 50% เข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเช่นกัน น่าจะจัดเก็บได้ 1,500 ล้านบาทต่อเดือน” นายดนุชากล่าว
นายดนุชา กล่าวว่ากระทรวงการคลัง จะเสนอมาตรการภาษีกระตุ้นการท่องเที่ยว นอกจากโครงการเราเที่ยวด้วยกันที่รอเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุม ครม. จะเสนอให้บริษัทเอกชนที่นำพนักงานไปท่องเที่ยวในเมืองรอง หักลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่า ส่วนในเมืองหลักสามารถลดหย่อนได้ 1.5 เท่า ขณะที่การจัดงานอีเวนท์ในต่างจังหวัด นิติบุคคลจะสามารถลดหย่อนภาษีได้เช่นกัน ระหว่างวันที่ 15 กรกฎาคมถึง 31 ธันวาคม 2565 และยังมีมาตรการที่จะขอให้ช่วยกันประหยัดพลังงาน ซึ่งจะนำเข้าสู่ที่ประชุมพิจารณาในที่ประชุม ครม. สัปดาห์หน้า ที่ 21 มิถุนายน 2565