สหพันธ์ขนส่งฯ ปรับขึ้นค่าขนส่ง 15-20% ชี้มีทั้งบริษัทที่รับได้และรับไม่ได้
เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม นายสิรภพ พิชัยรัตนพงศ์ เลขาธิการสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า จากการที่รัฐบาลปรับเพดานราคาน้ำมันดีเซลจาก 30 บาทต่อลิตร ขึ้นเป็น ไม่เกิน 35 บาทต่อลิตร นั้น ส่งผลให้สมาชิกของสหพันธ์ฯ ทั้ง 10 สมาคม ต้องปรับขึ้นค่าขนส่งขึ้น 15-20% ตามที่มีการประกาศไว้ก่อนหน้านี้
ทุกการปรับขึ้นของอัตราค่าน้ำมันดีเซล 1 บาทต่อลิตร ผู้ประกอบการขนส่งที่เป็นสมาชิกของสหพันธ์ก็จะปรับขึ้นราคาขึ้น 3% แต่จะไม่เกิน 20% ที่ตั้งไว้ เบื้องต้นได้มีการเจรจากับบริษัทคู่ค้าแล้ว ก็มีทั้งบริษัทที่รับได้และรับไม่ได้
หากในกรณีที่บริษัทคู่ค้าไม่สามารถรับกับราคาค่าบริการที่ปรับขึ้นได้ ทางผู้ประกอบการขนส่งก็มีความจำเป็นที่จะต้องขอหยุดวิ่งเป็นการชั่วคราว เพราะแบกรับต้นทุนที่เพิ่มขึ้นไม่ไหว ปัจจุบันกลุ่มที่ได้รับผลกระทบส่วนใหญ่จะเป็นผู้ประกอบการที่ต้องวิ่งขนส่งระยะไกล โดยปัจจุบันมีผู้ประกอบการขนส่งที่หยุดเดินรถแล้วประมาณ 20% จากจำนวนรถขนส่งที่เป็นสมาชิกทั้งหมด 4 แสนคัน
นายสิรภพ กล่าวว่า ส่วนของความเคลื่อนไหวของสหพันธ์ฯ ขณะนี้ อยู่ระหว่างดูท่าทีของรัฐบาล ปัจจุบันเริ่มมีการขยับทำตามข้อเสนอของทางสหพันธ์แล้ว เริ่มมีแนวโน้มการปรับสัดส่วนไบโอดีเซลจาก B5 เหลือที่ B3 แล้ว แต่ต้องดูมติจากคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ อีกครั้งว่าจะเป็นอย่างไร รวมถึงดูท่าทีเรื่องการยืดภาษีสรรพสามิตน้ำมัน ว่าหลังจากวันที่ 20 พฤษภาคมนี้ ทางรัฐบาลจะยืดการลดภาษีต่ออีกหรือไม่ แต่ไม่ว่าอย่างไรรัฐบาลก็ควรที่จะออกมาดูแลเกี่ยวกับเรื่องน้ำมันให้เร็วและครอบคลุมกว่านี้ด้วย