'พลังงาน' แจ้งโครงสร้างราคาน้ำมันดีเซลขึ้น 4 รอบ เริ่ม 1 พ.ค. ปรับขายลิตรละ 32
เมื่อวันที่ 28 เมษายน นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 27 เมษายน คณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง(กบน.) มีมติเห็นชอบแนวทางการปรับราคาน้ำมันดีเซลตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2565 ขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 32 บาทต่อลิตร หลังจากนั้น กบน. จะพิจารณาปรับราคาเป็นขั้นบันได แต่กำหนดเพดานราคาไม่เกิน 35 บาทต่อลิตร เพื่อลดผลกระทบที่จะเกิดกับประชาชน รวมถึงเพื่อให้เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรี(ครม.) เรื่องมาตรการลดค่าครองชีพประชาชนในส่วนที่เกี่ยวกับการตรึงราคาน้ำมันดีเซล
ด้วยการอุดหนุนครึ่งหนึ่งจากส่วนเกิน 30 บาทต่อลิตร โดยปัจจุบันหากไม่มีการอุดหนุนจากกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ราคาน้ำมันดีเซลจะอยู่ที่ประมาณ 40 บาทต่อลิตร เทียบจากดีเซลตลาดโลก 145 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ทั้งนี้หากในแต่ละรอบสัปดาห์ราคาน้ำมันตลาดโลกมีการปรับลดลง ก็จะมีการปรับเงินอุดหนุนและปรับเพดานราคาลดลงตามความการเปลี่ยนแปลงของราคาน้ำมันต่อไป
“หลังจากวันที่ 1 พฤษภาคม จะมีการเฉลี่ยสถานการณ์ราคาตลอดสัปดาห์ หากภาพรวมราคาน้ำมันตลาดโลกปรับขึ้น ก็จะประกาศขึ้นราคาทุกสัปดาห์ สัปดาห์ละ 1 บาท หากราคาโลกไม่เปลี่ยนแปลง ราคาขายปลีกจะคงที่ แต่หากตลาดโลกลดลง ก็จะปรับขายปลีกลงเช่นกัน จะมีผลทุกวันจันทร์ของสัปดาห์ เบื้องต้นกำหนดโครงสร้างดังนี้ 1 พฤษภาคม ราคา 32 บาทต่อลิตร 9 พฤษภาคม ราคา 33 บาทต่อลิตร 16 พฤษภาคม ราคา 34 บาทต่อลิตร และ 23 พฤษภาคม ราคา 35 บาทต่อลิตร ส่วนภาษีสรรพสามิตดีเซลที่ลดเหลือ 3.20 บาทต่อลิตร จะต่ออายุหรือไม่อยู่ที่กระทรวงการคลังพิจารณา”นายกุลิศกล่าว
นายกุลิศ กล่าวว่า ขณะเดียวกัน ในส่วนของน้ำมันดีเซลเกรดพรีเมียม กบน.เห็นชอบทยอยปรับลดการชดเชยลงเช่นกัน จะปรับลดการชดเชยลงสัปดาห์ละ 2 บาทต่อลิตร ปัจจุบันผู้ค้าตั้งราคาไม่เท่ากันตามสูตรผสมสารที่ต่างกัน และมีเป้าหมายจะจัดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับน้ำมันดีเซลพรีเมียมลิตรละ 1 บาท นอกจากนี้ กบน. ยังได้พิจารณาการปรับลดการชดเชยในกลุ่มน้ำมันเบนซิน อี85 โดยจะปรับลดการชดเชยจากกองทุนน้ำมันฯ ลงสัปดาห์ละ 1 บาท จากในปัจจุบันที่อุดหนุนอยู่ที่ 3.53 บาทต่ลิตร โดยมีเป้าหมายให้มีการอุดหนุนที่ 0.53 บาทต่อลิตร ล่าสุดราคาขายปลีก 31.04 บาทต่อลิตร(ราคาขายปลีกในกรุงเทพฯ)
นายกุลิศ กล่าวอีกว่า ปัจจุบันการดำเนินงานของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงมีส่วนช่วยแก้ไขวิกฤตผลกระทบต่อค่าครองชีพของประชาชน และเศรษฐกิจของประเทศ ล่าสุดฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ณ วันที่ 26 เมษายน 2565 ติดลบ 56,278 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นบัญชีน้ำมันติดลบ 24,302 ล้านบาท และบัญชีก๊าซแอลพีจี ติดลบ 31,976 ล้านบาท