รีเซต

HL ลั่นระฆังเทรด 3 ธ.ค.นี้ มั่นใจนักลงทุนตอบรับ กลุ่มพันธุกานนท์ ย้ำไม่ลดสัดส่วนหุ้น 72.22% ไม่หวังผลกำไร ขอโตยั่งยืน

HL ลั่นระฆังเทรด 3 ธ.ค.นี้ มั่นใจนักลงทุนตอบรับ กลุ่มพันธุกานนท์ ย้ำไม่ลดสัดส่วนหุ้น 72.22% ไม่หวังผลกำไร ขอโตยั่งยืน
มติชน
2 ธันวาคม 2564 ( 16:59 )
86

ภก.ธัชพล ชลวัฒนสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เฮลท์ลีด จำกัด (มหาชน) HL เปิดเผยว่า บริษัทฯมั่นใจว่าในวันที่ 3 ธันวาคมนี้ ที่ หุ้น HL จะเข้าทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) เป็นวันแรกจะได้รับความสนใจจากนักลงทุนอย่างคึกคัก เนื่องจากธุรกิจของบริษัทฯอยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมเมกะเทรนด์ และธุรกิจร้านขายยาค้าปลีกในรูปแบบ Chain Drug Store รายแรกที่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai และมีความสามารถทำกำไรในระดับสูง ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทสามารถทำกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด โดยในปี 2561-2563 กลุ่มบริษัทมีกำไรสุทธิจำนวน 0.39 ล้านบาท จำนวน 21.77 ล้านบาท และจำนวน 52.08 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ 0.05%, 2.38% 4.82% ตามลำดับ

 

ขณะที่ล่าสุดในงวด 9 เดือนของปี 2564 บริษัทฯมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 57.53 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 48.85% จากงวดเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิเท่ากับ 38.65 ล้านบาท โดยมีอัตรากำไรสุทธิ 6.30% เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันปีก่อนอยู่ที่ 4.85%

 

ภก.ศุภกร พันธุกานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท เฮลท์ลีด จำกัด (มหาชน) ในฐานะกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่กล่าวว่าภายหลังจากการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai ในครั้งนี้ กลุ่มพันธุกานนท์จะมีสัดส่วนการถือหุ้นรวม 72.22% ของทุนจดทะเบียน 136 ล้านบาท และยังคงมีนโยบายที่จะรักษาสัดส่วนการถือหุ้นไว้ เนื่องจากเป้าหมายของการเข้าจดทะเบียน เพื่อเป็นการเพิ่มศักยภาพและผลักดันการเติบโตในระยะยาว สามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นได้อย่างสม่ำเสมอ

 

“กลุ่มพันธุกานนท์ มีเจตนารมณ์อยากให้มีร้านขายยาที่ได้มาตรฐานความปลอดภัย อยู่คู่กับสังคมไทยไปตลอด สามารถกระจายยาไปยังชุมชนได้อย่างทั่วถึงทุกระดับ เราไม่ได้หวังว่าจะต้องทำกำไรให้มากที่สุด แต่อยากให้ร้านขายยาเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญของสังคม รองรับการก้าวสู่สังคมผู้สูงวัยอย่างเต็มรูปแบบ มีผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคได้ในทุกมิติ ตลอดจนมีการเติบโตอย่างยั่งยืน”

 

ทั้งนี้ HL ได้เสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 72 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) 0.50 บาทต่อหุ้น ในราคาหุ้นละ 9.80 บาท โดยจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) ในหมวดธุรกิจบริการ

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง