รีเซต

รู้จัก "ภาวะเส้นเอ็นไหล่เสื่อม" เปื่อยจนฉีกขาด ปล่อยทิ้งไว้เสี่ยงข้อหัวไหล่เสื่อมได้

รู้จัก "ภาวะเส้นเอ็นไหล่เสื่อม" เปื่อยจนฉีกขาด ปล่อยทิ้งไว้เสี่ยงข้อหัวไหล่เสื่อมได้
TNN ช่อง16
5 กันยายน 2568 ( 10:05 )
14

ภาวะเส้นเอ็นไหล่เสื่อม เปื่อยจนฉีกขาด พบได้ทั้งในผู้สูงอายุ คนวัยทำงานทั่วไป นักกีฬา รวมถึงผู้ที่ชื่นชอบการเล่นกีฬาหนัก ๆ หากมีพฤติกรรมการใช้ไหล่อย่างไม่เหมาะสมก็เกิดภาวะนี้ได้ โดยภาวะนี้จะส่งผลให้มีอาการปวดไหล่เรื้อรัง อาจจะมีอาการปวดร้าวลงมาที่แขนหรือปวดตอนเวลากลางคืนร่วมด้วย ซึ่งหากปล่อยไว้ไม่รักษาก็อาจทำให้เป็นข้อหัวไหล่เสื่อมก่อนเวลาอันควรได้

ภาวะเส้นเอ็นไหล่เสื่อมเป็นอย่างไร

เส้นเอ็นไหล่ คือ เส้นเอ็นขนาดเล็ก 4 เส้นที่อยู่บริเวณรอบข้อไหล่ โดยเส้นเอ็นกลุ่มนี้เป็นส่วนที่ต่อเนื่องมาจากกล้ามเนื้อสะบักทอดผ่านข้อไหล่ และยึดเกาะส่วนบนของกระดูกต้นแขน ทำหน้าที่ช่วยในการขยับไหล่ เช่น กางแขน ยกแขน หมุนไหล่ เป็นต้น หากมีความปกติเกิดขึ้น หรือเกิดการอักเสบรอบนอกของข้อ ซึ่งมีเอ็น ปลอกเอ็น ถุงน้ำกันเสียดสี และกล้ามเนื้อและเอ็นหุ้มข้อเป็นระยะเวลานาน จะทำให้เกิดเส้นเอ็นไหล่เสื่อม เปื่อย จนฉีกขาดได้


สาเหตุภาวะเส้นเอ็นไหล่เสื่อม

-เส้นเอ็นไหล่เสื่อมตามอายุการใช้งาน ซึ่งส่วนใหญ่มักจะพบในผู้สูงอายุที่เคยใช้งานข้อไหล่หนักมาก่อน

-การใช้ข้อไหล่อย่างไม่เหมาะสม ทำให้เกิดการอักเสบของเส้นเอ็น และกล้ามเนื้อ หรือกล้ามเนื้อข้อไหล่ฉีกขาด

-กระดูกงอกที่ข้อไหล่กดทับเส้นเอ็นไหล่

-ภาวะหินปูนเกาะที่กระดูกคลุมหัวไหล่ หรือลักษณะของปุ่มกระดูกคลุมหัวไหล่กดจิกเส้นเอ็นไหล่ ทำให้เกิดการเสียดสี และเมื่อเกิดการเสียดสีบ่อยๆ ทำให้เนื้อเอ็นเกิดอาการเปื่อย เสื่อม จนฉีกขาดของเส้นเอ็นรอบข้อหัวไหล่ได้

-เกิดจากคุณภาพของเส้นเลือดที่ไปหล่อเลี้ยงเส้นเอ็นไหล่ลดลง สาเหตุมาจากการสูบบุหรี่หรือโรคประจำตัว เช่น โรคเบาหวาน ซึ่งทำให้เอ็นหัวไหล่บาดเจ็บได้ง่าย แต่การสมานตัวเองหลังการบาดเจ็บทำได้ไม่ดี เกิดภาวะเสื่อม หรือฉีดขาดได้ง่าย


อาการเส้นเอ็นไหล่เสื่อม

-มีอาการปวดไหล่เป็นๆ หายๆ และอาจเรื้อรัง

-มีอาการปวดร้าวลงมาที่แขนหรือปวดตอนเวลากลางคืนร่วมด้วย

-มีอาการขัด ขยับไหล่ลำบากหรือบวมบริเวณไหล่

-อาการปวดจะรุนแรงมากขึ้น อย่างช้าๆ

-มีอาการปวดเมื่อมีการใช้หัวไหล่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการยกไหล่เหนือศีรษะ

-อาการปวดทำให้การขยับข้อหัวไหล่ลดลง หรืออาจจะมีอาการอ่อนแรงยกไหล่ไม่ขึ้น ในรายที่มีเส้นเอ็นไหล่เสื่อม เปื่อย จนฉีกขาดของเส้นเอ็นทั้งหมด อาจจะพบมีกล้ามเนื้อรอบๆ หัวไหล่และสะบักลีบเล็กลงได้


รู้ได้อย่างไรว่าเป็นภาวะเส้นเอ็นไหล่เสื่อม

แพทย์สามารถวินิจฉัยภาวะนี้ได้จากการซักถามอาการbและการตรวจร่างกาย เพื่อวินิจฉัยสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการ เช่น กิจกรรมที่ทำก่อนจะมีอาการ ลักษณะของอาการปวด ความถี่ และระยะเวลาที่เกิดอาการ โดยอาจไม่จำเป็นต้องตรวจพิเศษด้วยภาพถ่ายเอกซเรย์ ยกเว้นในกรณีที่แพทย์สงสัยว่ามีกระดูกงอกบริเวณใกล้เคียงกับเส้นเอ็นไหล่ หรือมีหินปูนเกาะไหล่ และทำให้เกิดการเสียดสีระหว่างกับเส้นเอ็น หรือสงสัยการมีโรคหรือภาวะอื่นๆ ของกระดูกและข้อไหล่ มีอาการปวดเรื้อรัง รักษาแล้วอาการไม่ดีขึ้น หรือสงสัยว่ามีการฉีกขาดของเส้นเอ็นข้อไหล่ร่วมด้วย ซึ่งอาจต้องตรวจพิเศษเพิ่มเติมด้วยการตรวจภาพด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (MRI) เพื่อการวินิจฉัยที่แม่นยำและการรักษาที่ถูกต้องต่อไป


การรักษาภาวะเส้นเอ็นไหล่เสื่อม

เมื่อได้รับการวินิจฉัยยืนยันแล้วว่ามีภาวะเส้นเอ็นไหล่เสื่อม เปื่อย หรือฉีกขาด กระบวนการรักษาจะมีรูปแบบที่ใช้กันเป็นมาตรฐาน 2 แนวทางหลัก ๆ ด้วยกันขึ้นอยู่กับระดับความรุนแรง ดังต่อไปนี้

1. การรักษาแบบไม่ผ่าตัด

จะเป็นการรักษาเบื้องต้น สำหรับผู้ป่วยที่มีอาการไม่ได้รุนแรงมาก แพทย์จะแนะนำการรักษา ได้แก่

-การพักและปรับเปลี่ยนการใช้งาน เช่นหลีกเลี่ยงการยกของหนัก หลีกเลี่ยงงานที่ต้องยกแขนสูง

-รักษาด้วยการประคบร้อน หรือเย็น

-การรับประทานยาแก้ปวด และยาแก้อักเสบ

-ในบางกรณีอาจมีการทำกายภาพบำบัดร่วมด้วย

-ถ้าเป็นมาก ปวดมาก แพทย์อาจพิจารณาใส่เฝือกอ่อนเพื่อให้อวัยวะนั้นได้พัก ลดการขยับ แต่จะใส่ระยะสั้นๆ ไม่เกิน 2 สัปดาห์ จะได้ไม่เกิดภาวะข้อยึดติด


2. การรักษาแบบผ่าตัดส่องกล้องซ่อมเส้นเอ็นไหล่

สำหรับผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงมาก รักษาเบื้องต้นแล้วไม่หาย หรือมีภาวะเส้นเอ็นไหล่เสื่อมจนฉีกขาด แพทย์อาจจำเป็นต้องพิจารณารักษาด้วยการผ่าตัดส่องกล้องซ่อมแซมเอ็นฉีกขาด (Arthroscopic Surgery) ซึ่งจะเป็นวิธีผ่าตัดเย็บซ่อมเส้นเอ็นที่ขาด หรือสร้างเอ็นใหม่ โดยนำเส้นเอ็นจากบริเวณอื่นมาทดแทน 

โดยที่ศัลยแพทย์จะเปิดแผลขนาดเล็กแล้วใช้กล้องขนาด 4 มิลลิเมตรส่องเข้าไปดูภายในบริเวณที่มีการฉีกขาดของเส้นเอ็น ภาพที่ได้จะถูกส่งขึ้นจอภาพที่อยู่ในห้องผ่าตัด ทำให้แพทย์สามารถเห็นส่วนต่างๆ ได้อย่างชัดเจน ก่อนที่จะใช้เครื่องมืออีกตัวหนึ่งมาช่วยเสริมในการจับและเย็บเส้นเอ็นที่ฉีกขาด โดยแผลที่เกิดจากการผ่าตัดส่องกล้องจะมีลักษณะเป็นรูเล็กๆ ขนาด 0.5 -1 เซนติเมตร จำนวน 3-4 รู ขึ้นอยู่กับว่าผู้ป่วยมีรอยโรคมากน้อยเพียงใด


ทั้งนี้ การผ่าตัดส่องกล้อง (Arthroscopic Surgery) จะมีข้อดีตรงแผลผ่าตัดมีขนาดเล็ก ลดการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อ นอกจากนี้หลังการผ่าตัดผู้ป่วยไม่ต้องเผชิญกับอาการปวดแผลหลังผ่าตัด เพราะใช้เทคนิคการระงับความเจ็บปวดหลังจากการผ่าตัด ด้วยวิธีการฉีดยาชาบริเวณรอบเส้นประสาทส่วนปลาย (Peripheral Nerve Block) ซึ่งเป็นวิธีระงับปวดที่มีประสิทธิภาพสูง และปลอดภัย ซึ่งผู้ป่วยจะสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติได้รวดเร็ว

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง