รีเซต

'บิ๊กตู่' เตรียมคิกออฟ 'ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์' ลงพื้นที่ 1 ก.ค. หมอทวีศิลป์เผย เหมือนแสงสว่างปลายอุโมงค์

'บิ๊กตู่' เตรียมคิกออฟ 'ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์' ลงพื้นที่ 1 ก.ค. หมอทวีศิลป์เผย เหมือนแสงสว่างปลายอุโมงค์
มติชน
18 มิถุนายน 2564 ( 15:13 )
113

 

เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019 (โควิด-19) (ศบค.) กล่าวว่า การเปิดพื้นที่นำร่องรับการท่องเที่ยว จ.ภูเก็ต และลำดับต่อไปคือ จ.สุราษฎร์ธานี ในเกาะสมุย เกาะพงัน และเกาะเต่า ตามนโยบายเปิดประเทศของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ในฐานะ ผอ.ศบค. จะมีการนำร่องค่อยๆ เปิดพื้นที่ไป แต่จะเน้นในภูเก็ต เพราะมีความพร้อมมากกว่า แต่ต้องจัดสมดุลการป้องกันคนไทยจากการติดเชื้อกับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ต้องมอง 2 มุม

 

 

นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า หลักการเปิดพื้นที่นำร่องท่องเที่ยว เราจะรับในกลุ่มประเทศที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ระบุว่ามีความเสี่ยงปานกลาง และต่ำ ต้องได้รับวัคซีนที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กำหนดไว้ 5 ชนิด คือ แอสตร้าเซนเนก้า ซิโนแวค ซิโนฟาร์ม โมเดอร์น่า และจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน หรือวัคซีนอื่นๆ เช่น ไฟเซอร์ หรือวัคซีนที่องค์การอนามัยโลกรับรองแล้ว แต่จะต้องได้รับครบโดสที่กำหนดของแต่ละวัคซีนอย่างน้อย 14 วัน

 

 

นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า เมื่อมาถึงแล้วต้องอยู่ในที่พักอย่างน้อย 14 คืน แต่ถ้าน้อยกว่า จะต้องเป็นกรณีกลับประเทศหรือออกนอกประเทศไทยเท่านั้น ต้องตรวจหาเชื้อโควิด-19 ก่อน 1 ครั้ง ใน 72 ชั่วโมงก่อนเดินทางถึงไทย ระหว่างพำนัก 14 วันในพื้นที่ ต้องตรวจหาเชื้ออีก 2 ครั้ง คือวันที่ 6-7 และ 12-13 ของการกักตัว

“สธ.กำหนดมาตรการกำกับ 3 ข้อ คือ 1.การจัดตั้งศูนย์บริหารจัดการโควิด-19 เพื่อดูข้อมูลการติดเชื้อ การดูแลทรัพยากร ซึ่งต้องร่วมกันระหว่าง สธ. การท่องเที่ยว และประชาสังคม 2.การเตรียมความพร้อมประชาชน ให้มีพื้นที่แสดงความคิดเห็น มีแผนการสื่อสาร ให้สอดคล้องกันทั้งจังหวัด และเมื่อเปิดได้ ก็ปิดได้ จึงมี 3.การเตรียมความพร้อม ทรัพยากรด้านสาธารณสุขให้เต็มที่ โดยพิจารณาการปิดคือติดเชื้อรายใหม่มากกว่า 90 รายต่อสัปดาห์ กระจายโรคในจังหวัดทั้ง 3 อำเภอมากกว่า 6 ตำบล และมีระบาดมากกว่า 3 คลัสเตอร์ ระบาดวงกว้าง หรือความเชื่อมโยงไม่ได้ หรืออัตราครองเตียงมากกว่า 80% แสดงว่าสถานการณ์ไม่ดี ก็จะต้องลดกิจกรรมลง ระบบปิดเส้นทาง ไปจนถึงยุติแซนด์บ็อกซ์ภูเก็ต” นพ.ทวีศิลป์กล่าว

นพ.ทวีศิลป์กล่าวต่อว่า ในวันที่ 1 ก.ค. ท่าน ผอ.ศบค.ก็คงได้ไปเยี่ยมชมและคิกออฟ เปิดภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ จึงขอให้ทุกคนร่วมใจกัน เดินไปสู่การเปิดประเทศของเราตามนโยบายของท่านนายกฯ

“การติดเชื้อเป็นพัน ทำไมเรายังเปิดประเทศ แต่เรียนว่าไม่ใช่ประเทศเราประเทศเดียวที่ติดเชื้อ และเราอยู่ในอันดับที่ 78 ของโลก ประเทศอื่นที่ติดเชื้อสูงกว่าเรา เขาก็ขยับเข้าสู่ชีวิตวิถีใหม่แล้ว ฉะนั้นเราจะอยู่กันตรงนี้ แล้วทำให้การเรียนรู้ของเราเกิดประโยชน์มากที่สุด แต่ต้องป้องกันโรคและลดการสูญเสียให้มากที่สุด

“ที่ท่านนายกฯ บอกว่า มีความเสี่ยง ซึ่งเราต้องร่วมด้วยช่วยกัน นี่คือสิ่งท่านกำหนดเป้าหมายไว้ข้างหน้า เสียงตอบรับที่ผ่านมาว่าดีมากๆ ทุกคนเห็นแสงสว่างปลายอุโมงค์ เราต้องร่วมด้วยช่วยกันทุกกลไกของสังคม เพื่อให้ฟันเฟืองหมุนไปด้วยกัน สู่การขับเคลื่อนเศรษฐกิจ” นพ.ทวีศิลป์กล่าว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง