ปลัดสาธารณสุข ประเดิมวัคซีนปราบโควิดเข็มแรก บิ๊กตู่-หมอหนู สักขีพยาน
![ปลัดสาธารณสุข ประเดิมวัคซีนปราบโควิดเข็มแรก บิ๊กตู่-หมอหนู สักขีพยาน](https://cms.dmpcdn.com/contentowner/2020/03/25/42cd3c40-6e5a-11ea-b8a2-09037777d4af_original.png)
![ปลัดสาธารณสุข ประเดิมวัคซีนปราบโควิดเข็มแรก บิ๊กตู่-หมอหนู สักขีพยาน](https://cms.dmpcdn.com/news/2021/02/28/9a3d9d90-7961-11eb-853c-1b789e16846e_original.jpg)
วันที่ 27 กุมภาพันธ์ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ในวันที่ 28 กุมภาพันธ์นี้ การฉีดวัคซีนป้องกันโควิด 19 เป็นการฉีดให้บุคลากรทางการแพทย์ โดยมี นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นผู้ประเดิมฉีดคนแรกในเวลา 07.30 น. ที่สถาบันบำราศนราดูร โดยตนเองและพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่ากากระทรวงกลาโหม จะร่วมเดินทางเป็นสักขีพยานและให้กำลังใจ
“ส่วนกรณีที่นายกรัฐมนตรีไม่ได้ฉีดวัคซีนนั้นเป็นดุลยพินิจของแพทย์ ต้องรอการตรวจรับรองรุ่นการผลิตจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เนื่องจากแอสตราเซนเนกาผู้นำเข้า ยังไม่ได้ยื่นเอกสารหรือตัวอย่างนำส่ง ส่วนการฉีดของตนขอให้เป็นดุลยพินิจของแพทย์เช่นกัน ไม่เกี่ยวกับข่าวลือขโมยซีนกับนายกรัฐมนตรี” นายอนุทิน กล่าว
นายอนุทิน กล่าวว่า วัคซีนแต่ละชนิดมีเงื่อนไขที่แตกต่างกัน โดยวัคซินซิโนแวคฉีดให้กับคนที่มีอายุระหว่าง 18-59 ปี ส่วน แอซตราเซนเนกาฉีดให้กับคนอายุ 60 ปีขึ้นไป ดังนั้น ไม่ใช่เรื่องใครฉีดก่อนฉีดหลัง การฉีดต้องคำนึงถึงความปลอดภัย จึงต้องให้แพทย์เป็นคนตัดสินใจ ส่วนหลังการรับวัคซีนในกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์เกิดขึ้น เชื่อว่า ผลลัพธ์ของวัคซีนจะเป็นคำตอบ และหลังการฉีดยังต้องรอดูผลด้วย