ทรัมป์ขู่ยิงเครื่องบินรบเวเนซุเอลา หากบินผ่านเหนือเรือรบสหรัฐฯ

คำเตือนของทรัมป์มีขึ้นหลังจากที่เวเนซุเอลาส่งเครื่องบินทหารบินใกล้เรือของสหรัฐฯ นอกชายฝั่งอเมริกาใต้ เป็นครั้งที่สองในรอบสองวัน ตามการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ต่อสำนักข่าว CBS News โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น ต่อเนื่องจากการโจมตีของสหรัฐฯ ต่อเรือที่ถูกระบุว่าเป็น "เรือบรรทุกยาเสพติดจากเวเนซุเอลา" ซึ่งควบคุมโดยแก๊งอาชญากรรม ซึ่งการโจมตีดังกล่าว ทำให้มีผู้เสียชีวิต 11 ราย
เมื่อนักข่าวสอบถามทรัมป์ขณะอยู่ในห้องทำงานรูปไข่ว่า จะเกิดอะไรขึ้นหากเครื่องบินของเวเนซุเอลาบินเหนือเรือรบของสหรัฐฯ อีกครั้ง ทรัมป์ตอบว่า "เวเนซุเอลาจะเจอปัญหาความยากลำบาก"
ทรัมป์ยังกล่าวกับนายพลทหารที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ว่า หากสถานการณ์บานปลาย เขาสามารถดำเนินการอะไรก็ได้ตามต้องการ
นับตั้งแต่ทรัมป์กลับเข้ารับตำแหน่งในเดือนมกราคมที่ผ่านมา เขาได้ เพิ่มความเข้มข้นในการปราบปรามการค้ายาเสพติดในลาตินอเมริกาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทางประธานาธิบดีนิโกลัส มาดูโร ของเวเนซุเอลา กล่าวหาสหรัฐฯ ว่า พยายามเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองของเวเนซุเอลาผ่านการข่มขู่ทางทหาร และปฏิเสธข้อกล่าวหาของสหรัฐฯเกี่ยวกับประเทศของเขา ไม่เป็นความจริง และย้ำว่า ความขัดแย้งระหว่างสองประเทศไม่ควรนำไปสู่ความขัดแย้งทางทหาร
เขายังกล่าวเพิ่มเติมว่า เวเนซุเอลาพร้อมเสมอที่จะพูดคุยและเจรจา แต่ขอเรียกร้องความเคารพ
เมื่อถูกถามถึงการแสดงความคิดเห็นก่อนหน้านี้ ทรัมป์ตอบว่า "ไม่พูดถึงเรื่องนั้น" แต่ก็กล่าวถึงสิ่งที่เขาเรียกว่าเป็น "การเลือกตั้งที่แปลกประหลาดมาก" ในเวเนซุเอลา โดยมาดูโรได้สาบานตนเข้ารับตำแหน่งเป็นสมัยที่สามในเดือนมกราคม หลังจากการเลือกตั้งที่ยังมีข้อโต้แย้ง
ทรัมป์ยังกล่าวต่อว่ายาเสพติดกำลังหลั่งไหลเข้าสหรัฐฯ จากเวเนซุเอลา และอ้างว่า สมาชิกของแก๊งค้ายาเสพติดที่ชื่อว่า เทรน เดอ อารากัว (Tren de Aragua) ซึ่งถูกสหรัฐฯ ขึ้นบัญชีเป็น “องค์กรก่อการร้าย” อาศัยอยู่ในเวเนซุเอลา
กองทัพสหรัฐฯ ได้เสริมกำลังในทะเลแคริบเบียนตอนใต้ รวมถึงส่งเรือรบเพิ่มเติม และกำลังทหารเรือกับนาวิกโยธินหลายพันนาย เพื่อพยายาม สกัดกั้นการลักลอบขนยาเสพติด
ทำเนียบขาวแถลงเมื่อวันที่ 5 กันยายนว่า สหรัฐฯ กำลังส่งเครื่องบินขับไล่ F-35 จำนวน 10 ลำไปยังเปอร์โตริโก ดินแดนปกครองของสหรัฐฯในทะเลแคริบเบียน
เมื่อถูกถามถึงการเสริมกำลังทางทหารในแถบแคริบเบียน ทรัมป์ตอบว่า เขาคิดว่ามันเป็นเรื่องของความแข็งแกร่ง สหรัฐฯ เข้มงวดเรื่องยาเสพติด ไม่ต้องการให้ยาเสพติดมาฆ่าประชาชนของเรา
ทรัมป์เป็นผู้วิพากษ์วิจารณ์มาดูโร มาอย่างยาวนาน และในเดือนสิงหาคม เขาได้เพิ่มเงินรางวัลนำจับมาดูโรเป็น 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 1,600 ล้านบาท โดยกล่าวหาว่า มาดูโรเป็นหนึ่งใน "นักค้ายารายใหญ่ที่สุดของโลก"
ในช่วงที่ทรัมป์ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยแรก รัฐบาลสหรัฐฯ ได้ตั้งข้อหามาดูโร และเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเวเนซุเอลาหลายคนในหลายข้อหา รวมถึงการก่อการร้ายโดยใช้ยาเสพติด การทุจริตคอร์รัปชัน และการค้ายาเสพติด ซึ่งมาดูโรก็ออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหาเหล่านี้จากสหรัฐฯ อย่างต่อเนื่อง
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
