“Van Gogh Alive Bangkok” ครั้งแรกในไทย!!! ผ่านรูปแบบศิลปะดิจิทัลอิมเมอร์ซีฟ
ครั้งแรกในประเทศไทยชวนทุกคนร่วมดื่มด่ำไปกับโลกศิลปะและชีวิตของศิลปินระดับโลก Vincent Van Gogh (วินเซนต์ แวนโกะห์) ภายใต้คอนเซ็ปต์ “I dream my painting, and then I paint my dream" จัดแสดงให้ชมตลอด4 เดือนเต็ม ตั้งแต่วันที่ 31 มีนาคม – 31 กรกฎาคม 2566 บนพื้นที่ขนาดใหญ่ถึง 4,120 ตารางเมตร ของAttraction Hall ชั้น 6 ไอคอนสยาม โดยแบ่งพื้นที่ออกเป็น 4 พื้นที่หลัก เพื่อให้สัมผัสความเป็นศิลปินได้อย่างเต็มอิ่ม
“Van Gogh Alive Interpretive Information” ก้าวแรกเป็นการทำความรู้จักกับ วินเซนต์ แวนโกะห์ ผ่านชิ้นงานที่ถือเป็นไฮไลต์ของเขา รวมถึงจำลองห้องนอนที่มาจากภาพ “Bedroom in Arles” ภาพห้องนอนของศิลปินในเมืองอาร์ลส์ (Arles) อันเลื่องลือ ถอดแบบที่พำนักของเขาในบ้านหลังสีเหลืองทางตอนใต้ของฝรั่งเศส ที่แห่งเดียวที่เขาเรียกว่าบ้าน ซึ่งจุดกำเนิดของแรงบันดาลใจในการสร้างงานสำคัญหลายต่อหลายชิ้น ซึ่งในนิทรรศการจะถอดแบบเครื่องเรือนและการตกแต่งห้องต่างๆ ให้เหมือนกับในภาพวาดอย่างพิถีพิถัน
ก่อนจะพาทุกคนก้าวต่อไปยังพื้นที่แสดงงานศิลปะ “S4 Gallery Hall” ที่นำงานเขียนอันโด่งดังระดับโลกในช่วงปี1880 – 1890 มากกว่า 3,000 ภาพ มาฉายบนกำแพงสูง 6 เมตร โดยฉายลงบนผนัง 40 จุดและฉายลงบนพื้นอีก20 จุด ประกอบดนตรีที่สื่อถึงความรู้สึกของศิลปิน แบ่งผลงานเป็นชุดตามพื้นที่ที่เขาเคยอาศัยอยู่ เพื่อให้ผู้ชมสัมผัสได้ถึงอารมณ์ในแต่ละช่วงชีวิตอย่างชัดเจน
นอกจากนี้ยังมีชุดภาพเหมือนตนเองที่วินเซนต์ได้วาดไว้ตลอดชีวิตการทำงานของเขา แสดงให้เห็นถึงพลวัตของสภาวะทางอารมณ์ที่ค่อนข้างแปรปรวนของศิลปินระดับโลกคนนี้ โดยภายในโซนนี้ยังมีการผสมผสานกลิ่นอโรมาเพื่อกระตุ้นการรับรู้และเสริมอารมณ์ นำพาผู้ชมให้ดื่มด่ำไปกับ “แวนโกะห์ อะไลฟ์” โดยเลือกกลิ่นหอมของสนไซเปรสซีดาร์วู้ด แซนดอลวู้ด และลูกจันทน์เทศ มาผสานความสดชื่นกับกลิ่นเลมอนและหญ้าแฝก ซึ่งสามารถเชื่อมผู้ชมให้ใกล้ชิดกับสวนผลไม้ สวนหย่อมและทุ่งกว้าง ที่วินเซนต์ได้รังสรรค์ไว้ในผลงานชิ้นเอกอันไร้กาลเวลา
ต่อด้วยโซนที่ 3 “Van Gogh Old Town” นำเสนอเมืองที่วินเซนต์เคยอาศัยอยู่ด้วยเทคนิคผสมผสานระหว่างของจริงและดิจิทัลอาร์ต เป็นการเปิดประสบการณ์ในรูปแบบใหม่ ใน 4 ธีมหลัก Fields, Starry Night, Countryside and Garden นำภาพเขียนจากพื้นที่เมืองอาร์ลส์อันงดงามมานำเสนอ
สำหรับโซนสุดท้าย จะเป็นพื้นที่ทำกิจกรรมที่น่าสนใจ อาทิ ห้องสอนวาดภาพแบบแวนโกะห์ ชั้นเรียนศิลปะที่ให้ผู้ที่สนใจได้เรียนรู้ลองลงมือสร้างงานศิลป์ และห้องจัดแสดง “Letter to Theo” จดหมายถึงน้องชายคนโปรดของวินเซนต์ รวมถึงมี AI Interactive Room ที่ช่วยรังสรรค์ภาพถ่ายของคุณให้ออกมาเหมือนจิตรกรรม พร้อมพักผ่อนในบรรยากาศอาร์ตๆ กับ “Van Gogh Café by After You” ที่นำแรงบันดาลใจจากผลงานศิลปะของวินเซนต์ แวนโกะห์ มาสร้างสรรค์เครื่องดื่มและขนมหวาน(เมื่อวันที่ 30 มี.ค.66)
ภาพโดย: ธนาชัย ประมาณพาณิชย์