"ซิลค์สแปน" จะนำหุ้นเข้า mai ขาย IPO ไม่เกิน 21.05 ล้านหุ้น , กลุ่ม TOA ร่วมถือหุ้น

บริษัท ซิลค์สแปน จำกัด (มหาชน) หรือ SILK จะนำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ(mai) โดยจะเสนอขายหุ้น IPO จำนวนไม่เกิน 21,049,582 หุ้น คิดเป็นไม่เกิน 16.70% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมด ภายหลังการเสนอขายหุ้นในครั้งนี้ แบ่งเป็นหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่เสนอขาย 18,906,920 หุ้น และบริษัท ทีโอเอ เวนเจอร์ โฮลดิ้ง จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทของครอบครัวตั้งคารวคุณ นำหุ้นสามัญเดิมออกมาเสนอขายจำนวน 2,142,662 หุ้น โดยมีบริษัท แคปปิตอล วัน พาร์ทเนอร์ จำกัดเป็นที่ปรึกษาทางการเงิน
บริษัท ซิลค์สแปน ซึ่งประกอบธุรกิจนายหน้าประกันวินาศภัยและให้บริการผลิตภัณฑ์การเงินทางออนไลน์ ได้ยื่นแบบไฟลิ่งต่อสำนักงาน ก.ล.ต. เพื่อขออนุญาตเสนอขายหุ้น IPO ดังกล่าว โดยเงินที่ได้จากการระดมทุน บริษัทมีแผนจะใช้เป็นแหล่งเงินทุนในธุรกิจนายหน้าประกันวินาศภัยสำหรับการชำระแลลผ่อนเบี้ยประกัน 0%, ใช้ในการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่สำหรับรองรับการบริการออนไลน์ และระบบปฏิบัติการ, ใช้เพิ่มความสามารถและขนาดของระบบจัดเก็บข้อมูล, ใช้สำหรับรองรับการทำการตลาดในการหาลูกค้าใหม่ของบริษัทในอนาคต และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนของกลุ่มบริษัท
บริษัท ซิลค์สแปน จำกัด (มหาชน) (“บริษัท” หรือ “SILK”) และ บริษัท ซิลค์สแปน อินชัวรันซ์ โบรกเกอร์เรจ จำกัด (“บริษัทย่อย” หรือ “SIB”) (เรียกรวมกันว่า “กลุ่มบริษัท”) ปัจจุบันดำเนินธุรกิจหลัก 2 ธุรกิจได้แก่
1) ธุรกิจให้บริการทางการตลาดในการจัดหาข้อมูลรายชื่อผู้มุ่งหวัง (Prospect) ให้แก่คู่ค้าของบริษัท ซึ่งได้แก่ บริษัทประกันภัย บริษัทสินเชื่อ และสถาบันการเงิน ในจะมีการเสนอข้อมูลที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งจัดทำการตลาดออนไลน์ เพื่อการจัดหาข้อมูลรายชื่อผู้มุ่งหวังผ่านแพลตฟอร์ม SILKSPAN และส่งต่อรายชื่อให้แก่คู่ค้าสำหรับติดต่อกลับ เพื่อการให้ความช่วยเหลือในการสมัครบริการให้แก่ลูกค้า
2) ธุรกิจนายหน้าประกันวินาศภัยสำหรับการเสนอขายบริการประกันรถยนต์และประกันสุขภาพ โดยมีเจ้าหน้าที่ติดต่อทางโทรศัพท์ (Telesale) ที่มีใบอนุญาตนายหน้าประกันวินาศภัย สำหรับสนับสนุนการให้บริการนายหน้าประกันรถยนต์แก่ลูกค้า ดำเนินการผ่านบริษัท ซิลค์สแปน อินชัวรันซ์ โบรกเกอร์เรจ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัทที่บริษัทถือหุ้นในสัดส่วน 100%
โครงสร้างผู้ถือหุ้น จะมี นายบุตรรัตย์ จรูญสมิทธิ์ ถือหุ้นใหญ่สัดส่วน 51.78% ภายหลัง IPO สัดส่วนจะลดลงมาที่ 44.01% ส่วนบริษัท ทีโอเอ เวนเจอร์ โฮลดิ้ง ถือหุ้น 20% ภายหลัง IPO สัดส่วนจะลดลงมาที่ 15.30%
ทั้งนี้ บริษัท ทีโอเอ เวนเจอร์ โฮลดิ้ง จำกัด (“TOAVH”) เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัท จดทะเบียนนิติบุคคลภายใต้กฏหมายประเทศไทยเพื่อประกอบกิจการการลงทุนในบริษัทอื่น โดยถือหุ้น 100% โดย บริษัท ทีโอเอ กรุ๊ป โฮลดิ้ง จำกัด ซึ่งเป็นนิติบุคคลจดทะเบียนภายใต้กฏหมายประเทศไทย และผู้ถือหุ้นที่แท้จริง (Ultimate Shareholders) ของ บริษัท ทีโอเอ เวนเจอร์ โฮลดิ้ง จำกัด และ บริษัท ทีโอเอ กรุ๊ป โฮลดิ้ง จำกัด คือ กลุ่มครอบครัวตั้งคารวคุณ
ส่วนเซฟ ฮาร์เบอร์ โฮลดิ้งส์ ลิมิเต็ด (Safe Harbour Holdings Limited) (หรือ “SHHL”) เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัท จดทะเบียน นิติบุคคลภายใต้กฏหมายสาธารณรัฐมอริเชียส ถือหุ้น 100% โดย Lombard Asia IV, L.P. (“LAIV”)/2 ซึ่งเป็นกองทุน Private Equity Fund ที่ลงทุนในบริษัทที่มีศักยภาพในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ยอดนิยมในตอนนี้
