รีเซต

KTB Q4 โบรกมองโตต่อ แอปเป๋าตังค์ต่อยอดเพิ่มโอกาส

KTB Q4 โบรกมองโตต่อ แอปเป๋าตังค์ต่อยอดเพิ่มโอกาส
ทันหุ้น
15 พฤศจิกายน 2566 ( 11:19 )
25
KTB Q4 โบรกมองโตต่อ แอปเป๋าตังค์ต่อยอดเพิ่มโอกาส

#บล.ดาโอ #ทันหุ้น- บล.ดาโอคาด KTB มีอนาคตดี โตต่อได้ แนะนำซื้อที่ราคาเป้าหมาย 25 บาท

 

ผู้บริหาร KTB ยังคงเป้าหมายการเติบโตปี 2023E ไว้ที่เดิม แต่มี NIM ที่มีโอกาสมากกว่าเป้าหมายที่ 2.8% (เราคาด 3.0%) เพราะ 4Q23E มีการปรับอัตราดอกเบี้ย M-rateเพิ่มขึ้นอีก และ Cost to Income อาจต่ำกว่าเป้าหมายที่ Low to mid -40จากรายได้ที่เติบโตได้ดี รวมถึง NPL มีโอกาสต่ำกว่าเป้าหมายที่ 3.5%  ขณะที่สินเชื่อที่ 3-5%Y0Y อาจจะต่ำกว่าเป้าหมายได้ เพราะจะเน้นสินเชื่อรายย่อยมากขึ้น

 

บล.ดาโอ ประมาณการกำไรสุทธิปี 2023 อยู่ที่ 4 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นได้ที่ + 19% Y0Yคาดว่าแนวโน้มกำไรสุทธิ 4023 จะเติบโต Y0Y ได้ จากสำรองฯที่ลดลงและ NIM ที่เพิ่มขึ้น แต่จะลดลง Q0Q เพราะมีค่าใช้จ่ายตามฤดูกาลที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะค่าใช้จ่ายพนักงานและค่าใช้จ่ายทางการตลาด

 

ราคาหุ้นเพิ่มขึ้น +3% ใน 3 เดือนที่ผ่านมาเมื่อเทียบกับ SET จากอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น โดยปัจจุบันซื้อขายเพียง PBV ที่ 0.6x (-1.00SD ขณะที่ราคาหุ้นยังไม่สะท้อนกำไรรายไตรมาสที่ทำได้ดี โดยกำไรสามารถยืนเหนือ 1 หมื่นล้านบาทต่อไตรมาสได้ ซึ่งมากกว่าช่วงก่อนโควิด (ปี 2019 ราคาหุ้นทำจุดสูงสุดเหนือ 21.00 บาท)

 

บล.ดาโอ มุมมองเป็นกลางจากการประชุมนักวิเคราะห์เพราะเป้าหมายทางการเงินยังดีตามที่เราคาด จากการประชุมนักวิเคราะห์วานนี้ (14 พ.ย.) เรามีมุมมองเป็นกลางเพราะเป้าหมายทางการเงินยังดีตามที่เราคาด โดยมีประเด็นสำคัญจากการประชุมดังนี้ 1) ผู้บริหารยังคงเป้าหมายการเติบโตปี 2023E ไว้ที่เดิม แต่มี NIM ที่มีโอกาสมากกว่าเป้าที่ 2.8%(เราคาด 3.0%)เพราะ 4Q23E มีการปรับอัตราดอกเบี้ย M-rate และ CASA เพิ่มขึ้นอีก และ Cost to Income มีโอกาสต่ำกว่าเป้าหมายที่ Low to mid-40 (เราคาด 39%) จากรายได้ที่

เติบโตได้ดี รวมถึง NPL มีโอกาสต่ำกว่าคาดที่ 3.5% (เราคาด 3.46%) 2) ขณะที่เป้าการเติบโตของสินเชื่อที่ 3-5% Y0Y (เราคาด 4%) อาจจะต่ำกว่าเป้าหมายได้ เพราะ

จะเน้นสินเชื่อรายย่อยมากขึ้น และจะขยายในส่วนของ digital loan มากขึ้น แต่มีโอกาสที่จะปล่อยสินเชื่อภาครัฐเพิ่มขึ้นได้หากผลตอบแทนมากกว่าสินเชื่อรายใหญ่ (สินเชื่อภาครัฐแม้ว่าจะทำให้ NIM ลดลง แต่จะช่วยให้มีกำไรเพิ่มขึ้นได้ เพราะไม่ต้องมีการใส่สำรองฯเพิ่ม) 3) ลูกหนี้จัดชั้นใน Stage 2 มีการปรับตัวลดลงได้ดี (-6% Y0Y, -4% Q0Q) เพราะมีการติดตาม

ลูกหนี้อย่างใกล้ชิด และมีลูกหนี้หลายรายมีความสามารถในการชำระหนี้ได้ดีขึ้นมาก 4) รายการดอกเบี้ยค้างรับ (Accrued Interest Receivables : AIR) ในงบดุลที่เพิ่มขึ้นถึง +19%

Q0Q ไม่น่ากังวล เพราะเกิดจาก 1) Payment term วันที่ปิดบัญชีชนกับวันหยุดพอดี ทำให้มียอดค้างชำระเพิ่มขึ้น (สัดส่วน 55% ของ AIR) 2) สินเชื่อภาครัฐที่เพิ่งเริ่มปล่อยมากขึ้น (+8% Q0Q) ใน 3023 ซึ่งโดยปกติจะมีการจ่ายเงินทุกๆ 6 เดือน (สัดส่วน 25% ของ AIR) 3) สินเชื่อบ้านที่เป็นแบบ Step-up ทำให้มีอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง (Effective Interest Rate : EIR) ที่ต่างกันมาก (สัดส่วน 20% ของ AIR) 5) KTB ยังคงใช้แอฟเป๋าตังค์ในการทำ cross-selling อยู่ โดยจะมีการออกผลิตภัณฑ์และบริการ

ใหม่ๆอย่างต่อเนื่อง

 

คงประมาณการกำไรสุทธิปี 2023 คาดกำไรใน 4Q23E จะเพิ่มขึ้น Y0Y ได้ต่อบล.ดาโอ ยังคงประมาณการกำไรสุทธิปี 2023 อยู่ที่ 4 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นได้ที่ +19% Y0Y ขณะที่เราคาดว่าแนวโน้มกำไรสุทธิ 4023E จะเติบโต Y0Y ได้ จากสำรองที่ลดลงและ NIM ที่เพิ่มขึ้น แต่จะลดลง00Q เพราะมีค่าใช้จ่ายตามฤดูกาลที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะค่าใช้จ่ายพนักงานและค่าใช้จ่ายทางการตลาด

 

แนะราคาเป้าหมายที่ 25.00 บาท อิง 2024E PBV ที่ 0.80x (-0.50D below 10-yr average PBV) ขณะที่ยังมี upside เพิ่มจากแนวโน้มรายได้ค่าธรรมเนียมที่มีโอกาสเพิ่มขึ้นได้ดีจากแอปเป๋าตังค์ที่กำลังต่อยอดในการขายหลายๆผลิตภัณฑ์  และสามารถนำข้อมูลมา cross-selling เพิ่มเติมได้อีกในอนาคต แต่อย่างไรก็ดียังมีความเสี่ยงจากแนวโน้มการตั้งสำรองฯและค่าใช้จ่ายทางด้าน IT ไม่เป็นไปตามคาด

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง