"อิสราเอล" พัฒนาชุดตรวจโควิดจากลมหายใจ รู้ผลใน 30 วินาที!

เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า บริษัทนาโนเซนท์ บริษัทเอกชนที่ให้บริการด้านเทคโนโลยีตรวจจับคุณลักษณะอย่างฉับไว ที่ประยุกต์ใช้ได้หลายทางรวมทั้งทางการแพทย์ ประกาศความสำเร็จในการพัฒนาชุดตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยลมหายใจซึ่งใช้เวลาเร็วมาก คือเพียง 30 วินาทีก็รู้ผล ในขณะเดียวกันก็เป็นการตรวจที่ต้นทุนถูกมาก คือราว 10 ดอลลาร์หรือ 320 บาทต่อครั้ง ในขณะที่มีความแม่นยำในการคัดกรองผู้ติดเชื้อสูงถึง 85 เปอร์เซ็นต์จากการทดลองในอิสราเอล

นายโอเรน กราวรีลีย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) ของบริษัทอธิบายการใช้งานว่าไม่ยุ่งยาก ผู้ตรวจเพียงต้องสูดลมหายใจเข้า เอามือปิดรูจมูกด้านหนึ่ง แล้วเป่าลมหายใจออกผ่านรูจมูกข้างที่เหลือลงสู่ถุงเก็บตัวอย่างลมหายใจหรือ แอร์แทรป ซึ่งปลายด้านหนึ่งมีอุปกรณ์เสียบต่อเข้ากับเครื่องวิเคราะห์ตัวอย่างขนาดเล็ก ที่จะทำหน้าที่ดูดอากาศจากถุงเข้าไปวิเคราะห์ภายในเครื่อง เพียง 30 วินาทีก็รู้ผล

หลักการทำงานของชุดตรวจโควิดด้วยลมหายใจซึ่งถูกเรียกว่า “เซนท์ รีเดอร์” หรือ “เครื่องอ่านกลิ่น” นี้อยู่ที่การศึกษาวิจัยกลิ่นจำเพาะของผู้ที่มีเชื้อไวรัสก่อโรคโควิด-19 อยู่ภายในโพรงจมูก ด้วยการวิเคราะห์กลุ่มตัวอย่างที่เป็นผู้ป่วยโควิด-19 ในอิสราเอลราว 1,000 คน พบว่า ผู้ป่วยมีกลิ่นพิเศษที่เกี่ยวเนื่องกับไวรัสก่อโรคนี้ ทางบริษัทจำแนกรูปแบบของกลิ่น แล้วบันทึกไว้ในเครื่อง ที่จะส่งผลเป็นผู้ต้องสงสัยว่าจะติดเชื้อทันทีที่มีรูปแบบของกลิ่นจำเพาะเหมือนกับผู้ติดเชื้อ

นายกราวรีลีย์ระบุว่า บริษัทไม่ได้ตั้งใจจะให้ใช้ชุดวิเคราะห์ลมหายใจนี้ ไปทดแทนการตรวจหาเชื้อด้วยวิธีเก็บตัวอย่างสารคัดหลั่งจากโพรงจมูกไปตรวจ แต่ตั้งใจจะใช้เครื่องนี้เป็นอุปกรณ์ช่วยในการคัดกรองเบื้องต้น ซึ่งสามารถนำไปใช้ในการคัดกรองผู้ที่จะเข้าโรงพยาบาล ผู้ที่เดินทางไปชมคอนเสิร์ต หรือใช้ในอุตสาหกรรมการบินเท่านั้น โดยในขณะนี้ เครื่องอ่านกลิ่นนี้ถูกนำไปใช้งานในสนามแข่งขันกีฬาในยุโรปหลายแห่งเป็นโครงการนำร่องเชิงพาณิชย์แล้ว ส่วนในอิสราเอลคาดว่าจะได้รับอนุญาตให้ใช้ได้ในอีกไม่กี่เดือนนี้