3 โบรกฯ เปิดมุมมองการปรับโครงสร้าง SCB ช่วยปลดล็อค Valuation หนุนการเติบโต
ทันหุ้น-โบรกเกอร์ 3 รายออกบทวิเคราะห์หุ้นธนาคาร ไทยพาณิชย์ หรือ SCB ที่มีการปรับโครงสร้างของกลุ่ม รวมถึงได้จับมือกับพันธมิตรรวมทำธุรกิจ ซึ่งมองว่าเป็นการปลดล็อคการเติบโต และมูลค่า โดยมองในระยะยาวมีทิศทางที่ดี จึงแนะนำซื้อ
บล.ฟิลลิป(ประเทศไทย) มองการปรับโครงสร้างของ SCB โดยจะมี SCBX กลายเป็นบริษัทแกนหลัก ซึ่งบริษัทลูกของ SCBX จะถูกแบ่งเป็น 3 กลุ่มธุรกิจหลักคือกลุ่มธุรกิจธนาคาร SCB จะอยู่ในกลุ่มนี้และทำธุรกิจธนาคาร asset management, wealth management รวมไปถึง digital
banking ด้วย 2 กลุ่มธุรกิจ consumer finance และ digital financial service ซึ่งจะประกอบไปด้วยบริษัทอย่าง Card X, Auto x (ทำธุรกิจ จำนำทะเบียน) ALPHA X (ธุรกิจลีสซิ่ง) และบล.ไทยพาณิชย์
3. กลุ่มธุรกิจ digital platforms และ technology services ประกอบไปด้วยหลายบริษัท เช่น SCB 10X , SCB ABACUS และ AISCB ที่เป็นการร่วมทุนกับ ADVANC เป็ นต้น การปรับโครงสร้างครั้งนี้จะทำให้การบริหารบริษัทในเครือของ SCBX ทำได้คล่องตัวขึ้น และเน้นการขยายตัวของ บริษัทลูก โดยหาก บริษัทลูกเติบโตถึงจุดหนึ่งก็มีแผนที่จะเอาเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ต่อไป
โดยแผน 5 ปีของ SCBX ประกอบไปด้วยการร่วมทุนกับบริษัทอื่นๆ จะทำให้ SCBX เข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้นถึง 200 ล้านคนทั่วภูมิภาคอาเซียน มีเป้าหมายที่จะเพิ่มมาร์เก็ตแคปของ SCBX ขึ้นเป็น 1 ล้านล้านบาท และมีเป้าหมายเป็นผู้นำในธุรกิจ digital asset และมีเป้าหมายเปลี่ยนตัวเองเป็นบริษัท Fin tech ไม่ใช่บริษัทที่ทำธุรกิจธนาคารอีกต่อไป
ฝ่ายวิจัยมองว่าการปรับโครงสร้างนี้มีประโยชน์กับกลุ่มที่จะขยายโอกาสในการเติบโต อย่างไรก็ตามกว่ากระบวนการจะเสร็จสิ้นจะอยู่ในปี 2565 และยังไม่น่าจะทำให้ผลประกอบการนั้นเติบโตขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ จึงยังคงประมาณการกำไรปี 2564-2565 ของ SCB ไว้เหมือนเดิม และยังคงราคาพื้นฐานที่ 121 บาทต่อหุ้น แนะนำซื้อ
ด้านบล.ทรีนีตี้ มองว่าการปรับโครงสร้างของ SCB จะสร้างมูลค่าเพิ่มจะมาจากการเติบโตของธุรกิจใหม่ที่เป็น Growth Business แม้ว่าปัจจุบันยังไม่มีการประกาศเป้าหมายทางการเงินของแต่ละธุรกิจย่อย แต่เห็นโอกาสในการเติบโตที่ดีมากขึ้น ในเบื้องต้นจึงปรับสมมติฐาน Long-term Growth เป็น 6%สูงกว่ากลุ่มที่ 5% ทำให้ราคาเป้าหมายใหม่ที่ 139 บาทต่อหุ้น พร้อมปรับคำแนะนำเป็นซื้อ
บล.กรุงศรี มองการที่ SCB ได้จับมือกับ ADVANC เพื่อให้บริการสินเชื่อทางดิจิตัล และการที่ SCB ร่วมกับเครือเจริญโภคภัณฑ์ เพื่อจัดตั้งกองทุน venture capital กับเครือเจริญโภคภัณฑ์ มูลค่า 600-800 ล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อลงทุนในเทคโนโลยี blockchain มองการปรับเชิงกลยุทธ์และพันธมิตรขนาดใหญ่นี้จะทำให้ SCB ได้ประโยชน์จากฐานข้อมูลที่กว้างขึ้น และช่องทางการเข้าถึงลูกค้ารายย่อยที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นบนดิจิทัลแพลตฟอร์ม
ส่วนการปรับโครงสร้างให้บริษัทกลายเป็นโฮลดิ้ง คอมปานี จะช่วยปลดล็อค Valuation และศักยภาพการเติบโตจากกรอบความเสี่ยงเดิมของธนาคาร จึงยังคงแนะนำซื้อ ให้ราคาเป้าหมายที่ 132 บาทต่อหุ้น
ราคาหุ้น SCB เช้านี้เคลื่อนไหวอยู่ที่ 126 บาท บวก 16.50 บาท หรือ 15.07% มีมูลค่าการซื้อขาย 8,935.98 ล้านบาท