ยูโอบี (ไทย) ออกมาตรการลดภาระลูกค้า ผ่อนชำระบัตรเครดิตขั้นต่ำเหลือ5%
ธนาคารยูโอบี (ไทย) ประกาศมาตรการช่วยเหลือลูกค้าบัตรเครดิต สินเชื่อส่วนบุคคล สินเชื่อบ้าน และสินเชื่อธุรกิจเอสเอ็มอี ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 โดยปรับลดอัตราการผ่อนชำระคืน ขั้นต่ำและมอบทางเลือกในการพักเงินต้น ซึ่งมาตรการดังกล่าวสอดคล้องกับนโยบายช่วยเหลือด้านสินเชื่อที่ทางธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนดขึ้นเพื่อลดภาระหนี้ของประชาชน
ลูกค้าผู้ถือบัตรเครดิตของธนาคารที่มีสถานะทางบัญชีปกติ จะได้รับการปรับลดอัตราผ่อนชำระคืนขั้นต่ำจาก 10% เป็น 5% สำหรับบัตรเครดิตยูโอบี และจาก 5% เป็น 2.5% สำหรับบัตรกดเงินสดยูโอบีแคชพลัส โดยจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2563
สำหรับลูกค้าบัตรเครดิตยูโอบีและทูมอร์โรว์ บัตรกดเงินสดยูโอบีแคชพลัส สามารถแจ้งความประสงค์ในการขอพักชำระเงินต้นและดอกเบี้ยเป็นเวลา 3 รอบบัญชี หรือเปลี่ยนยอดหนี้คงค้างเป็นยอดผ่อนรายเดือนชำระรายเดือนสูงสุด 48 รอบบัญชี สำหรับสินเชื่อส่วนบุคคล i-Cash สามารถแจ้งความประสงค์ในการพักชำระเงินต้นและดอกเบี้ย 3 รอบบัญชี สำหรับลูกค้าสินเชื่อบ้าน สามารถแจ้งความประสงค์เลือกพักชำระเงินต้นและดอกเบี้ย 3 รอบบัญชี หรือพักชำระเงินต้นโดยชำระเฉพาะดอกเบี้ยเป็นเวลา 12 รอบบัญชี
สำหรับลูกค้าเอสเอ็มอี สามารถแจ้งความประสงค์ขอพักชำระเงินต้นและดอกเบี้ย 3 เดือน หรือเลือกพักชำระเงินต้นโดยชำระเฉพาะดอกเบี้ยได้สูงสุด 12 เดือน หรือยื่นขอสินเชื่อเพื่อเสริมสภาพคล่องกับสินเชื่อโครงการ Soft Loan ที่อัตราดอกเบี้ย 2% ต่อปี เป็นระยะเวลา 2 ปี วงเงินสูงสุด 20 ล้านบาท
นายตัน ชุน ฮิน กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารยูโอบี (ไทย) กล่าวว่า ธนาคารยึดมั่นในความสัมพันธ์อันดีกับลูกค้าเสมอมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์โรคระบาดเช่นนี้ ที่ต้องให้ความสำคัญกับสุขภาพ ความเป็นอยู่ของตนเองและครอบครัว รวมถึงประคับประคองธุรกิจ เราหวังว่ามาตรการการปรับลดอัตราผ่อนขำระคืนขั้นต่ำนี้จะสามารถช่วยบรรเทาภาระหนี้สิน และช่วยให้ลูกค้าของธนาคารสามารถผ่านช่วงเวลานี้ไปด้วยกัน