รีเซต

คริปโทท้าทายการเงินโลก! เปิด 3 ปัจจัยปลดล็อก "Bitcoin-AltCoin" สู่สินทรัพย์กระแสหลัก

คริปโทท้าทายการเงินโลก! เปิด 3 ปัจจัยปลดล็อก "Bitcoin-AltCoin" สู่สินทรัพย์กระแสหลัก
TNN ช่อง16
22 สิงหาคม 2568 ( 20:38 )
12

ท่ามกลางกระแสความร้อนแรงของตลาดคริปโทเคอร์เรนซีที่ราคาพุ่งทำจุดสูงสุดใหม่ (All-Time High) อย่างต่อเนื่อง คุณธนลภย์ ปรีดามาโนช Fund Manager จาก บริษัท เมอร์เคิล แคปปิตอล จำกัด ได้ให้สัมภาษณ์ในรายการ WEALTH X ชี้ว่านี่ไม่ใช่แค่การเก็งกำไร แต่เป็นสัญญาณการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญที่กำลังท้าทายระบบการเงินโลก พร้อมเปิด 3 ปัจจัยสำคัญที่กำลังปลดล็อกให้ Bitcoin และ AltCoin ก้าวสู่การเป็นสินทรัพย์กระแสหลัก

ปัจจัยที่1 Bitcoin จาก "ของเล่น" สู่ "สินทรัพย์สถาบัน"

คุณธนลภย์อธิบายว่า Bitcoin ได้ผ่านวิวัฒนาการมาหลายยุค ตั้งแต่การเป็น "ของเล่นของกลุ่ม Geek" ในปี 2009 สินทรัพย์เก็งกำไรของรายย่อยในปี 2017 จนมาถึงปัจจุบันที่สถานะได้เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง

"Wave นี้ ตัวปลดล็อกสำคัญคือด้านกฎหมาย การอนุมัติ Bitcoin ETF, กฎหมายรองรับ Stablecoin และการที่รัฐบาลบางประเทศเริ่มเก็บเป็นทุนสำรอง ได้เปิดประตูให้นักลงทุนสถาบันเข้ามาเต็มตัว" คุณธนลภย์กล่าว

การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ทำให้มุมมองต่อ Bitcoin เปลี่ยนไป จากเดิมที่เป็นสินทรัพย์เก็งกำไรความเสี่ยงสูง กลายเป็น

Store of Value สินทรัพย์รักษามูลค่าดิจิทัล ที่เป็นทางเลือกใหม่นอกเหนือจากทองคำ

Alternative Asset สินทรัพย์ทางเลือกที่แม้จะมีความผันผวน แต่การเพิ่มเข้าไปในพอร์ตเพียง 1-5% สามารถเพิ่มผลตอบแทนเมื่อเทียบกับความเสี่ยง (Sharpe Ratio) ได้อย่างคุ้มค่า

ปัจจัยที่2 Altcoin ปลดล็อก "ปันผล" เมื่อเหรียญไม่ใช่แค่เก็งกำไร

อีกหนึ่งการเปลี่ยนแปลงสำคัญที่คนส่วนใหญ่มองข้ามคือการปลดล็อกศักยภาพของ Altcoin โดยเฉพาะในกลุ่ม DeFi (Decentralized Finance)

คุณธนลภย์ชี้ว่ากฎหมายใหม่ในสหรัฐฯ (Clarity Act) ได้สร้างความชัดเจนทางกฎหมาย ทำให้โปรเจกต์ DeFi ที่มีรายได้มหาศาลอย่าง Uniswap สามารถแบ่งรายได้นั้นกลับคืนสู่ผู้ถือเหรียญได้แล้ว ซึ่งเปรียบเสมือน "การจ่ายเงินปันผล" ของหุ้น

"นี่คือธีมใหม่ที่เรียกว่า 'Revenue Meta' อนาคตการถือเหรียญคริปโทจะไม่ใช่แค่การเก็งกำไร แต่จะเหมือนการถือหุ้นที่ได้รับส่วนแบ่งจากรายได้จริงของธุรกิจ ทำให้เราสามารถวิเคราะห์มูลค่าพื้นฐานแบบเดียวกับหุ้นได้เลย"

ปัจจัยที่3 Fiat Money "เงินเฟ้อแฝง" คือเหตุผลที่ Bitcoin เกิดขึ้น

คุณธนลภย์มองว่าเหตุผลพื้นฐานที่ทำให้ Bitcoin มีคุณค่าและเติบโตมาจนถึงทุกวันนี้ คือการเป็นคำตอบของปัญหา "เงินเฟ้อแฝง" ในระบบการเงินดั้งเดิม (Fiat Money) "ตัวเลขเงินเฟ้อที่เราเห็น (CPI) อาจจะแค่ 1-2% แต่ถ้าเราไปดูปริมาณเงินในระบบ (M2 Supply) ทั่วโลก มันเพิ่มขึ้นปีละ 5-10% มาตลอด นั่นหมายความว่ามูลค่าเงินสดที่เราถืออยู่ลดลงทุกปี Bitcoin เกิดขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหานี้"

ตราบใดที่รัฐบาลทั่วโลกยังคงพิมพ์เงินเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ความจำเป็นในการมีสินทรัพย์ที่จำกัดปริมาณอย่าง Bitcoin ก็จะยิ่งชัดเจนขึ้น

แม้แนวโน้มจะดูสดใส แต่คุณธนลภย์ได้ทิ้งท้ายคำเตือนที่สำคัญที่สุดถึงนักลงทุนว่า "ทุกครั้งใน Bull Run สิ่งที่จะตามมาคือความโลภ" ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการขาดทุน "สิ่งที่อยากให้ทุกคนทำคือมี Action Plan ที่ชัดเจนก่อนลงทุน ไม่ว่าจะเป็นสินทรัพย์อะไรก็ตาม ต้องตอบให้ได้ว่าเราเข้าเพราะอะไร และจะออกเพราะอะไร ถ้าเข้าด้วยเทคนิค ก็ต้องมีจุดทำกำไร และจุดตัดขาดทุน (Stop Loss) ที่ชัดเจน อย่าปล่อยให้อารมณ์และความโลภพาเราไปติดดอย"

รับชมคลิปบทสัมภาษณ์ คุณธนลภย์ ปรีดามาโนช Fund Manager จาก บริษัท เมอร์เคิล แคปปิตอล จำกัด 

ใน WEALTH X “คริปโท” ท้าทายการเงินโลก 3 ปัจจัยหนุน “Bitcoin-AltCoin” ไปต่อ รับชมคลิปเต็มคลิก

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง