รีเซต

หน้าอกเล็ก ไม่เสี่ยงมะเร็งเต้านม ไม่จริงแพทย์เผย

หน้าอกเล็ก ไม่เสี่ยงมะเร็งเต้านม ไม่จริงแพทย์เผย
TNN ช่อง16
21 ตุลาคม 2568 ( 12:51 )
10

ทุกวันนี้โรคมะเร็งเต้านมยังเป็นหนึ่งในโรคเต้านมที่อันตรายและน่ากังวลมากที่สุดโดยข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุขและสถาบันมะเร็งปี 2565 ระบุว่าหญิงไทยเป็นมะเร็งเต้านมกว่า 38,559 รายและเสียชีวิตเฉลี่ยถึง 22 คนต่อวันนอกจากนี้ยังมีแนวโน้มพบในผู้ป่วยอายุน้อยเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ สะท้อนถึงอันตรายที่ผู้หญิงทุกวัยควรตระหนักและหมั่นตรวจคัดกรองอย่างสม่ำเสมอก่อนก้อนเนื้อร้ายจะเข้าสู่ระยะรุนแรงจนเป็นอันตรายถึงชีวิตวันนี้

นพ.ศิวรักษ์ ตันตินราวัฒน์ ศัลยศาสตร์มะเร็งเต้านมศูนย์เต้านม รพ.วิมุต ได้แชร์เรื่องควรรู้เกี่ยวกับมะเร็งเต้านม พร้อมเคลียร์ความเชื่อผิด ๆ ที่อาจกำลังทำให้ผู้หญิงทุกคนเสี่ยงเป็นโรคนี้โดยไม่รู้ตัว

หน้าอกเล็ก-ใหญ่ไม่มีผลต่อความเสี่ยงมะเร็งเต้านม

มะเร็งเต้านม (Breast Cancer) คือภาวะที่เซลล์ภายในเต้านมเจริญเติบโตผิดปกติและควบคุมไม่ได้จนกลายเป็นก้อนเนื้อร้ายซึ่งอาจลุกลามไปยังเนื้อเยื่อใกล้เคียงจนเป็นอันตรายต่อชีวิต โดยปัจจัยเสี่ยงที่อาจทำให้เกิดมะเร็งเต้านมได้แก่พันธุกรรมอายุที่มากขึ้นปัญหาด้านฮอร์โมนภาวะน้ำหนักเกินรวมถึงการดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่ ส่วนการมีหน้าอกใหญ่ไม่ได้ทำให้เสี่ยงมะเร็งมากขึ้นแต่จะไปเกี่ยวข้องกับความหนาแน่นของเต้านมเพราะเต้านมประกอบด้วยเนื้อเยื่อเต้านม (glandular tissue) ซึ่งเป็นส่วนที่เกิดมะเร็งได้และอีกส่วนคือเนื้อเยื่อไขมัน (fat tissue)เป็นส่วนที่เกิดมะเร็งได้น้อยดังนั้นใครที่มีเนื้อเยื่อเต้านมเยอะจะมีความหนาแน่นของเต้านมมากอาจเพิ่มโอกาสในเกิดมะเร็งเต้านมมากกว่า

เต้านมมีก้อน-บวม-ขนาดผิดปกติสัญญาณเตือนมะเร็งเต้านมที่ห้ามละเลย

อาการของโรคมะเร็งเต้านมไม่ควรมองข้ามได้แก่การคลำพบก้อนที่เต้านมหรือบริเวณรักแร้เต้านมบวมเป็นรอยบุ๋มมีผื่นคล้ายผิวส้มแดงอักเสบหรือมีแผลที่ไม่หายรวมถึงผิวบริเวณหัวนมที่หนาตัวหรือผิดปกติและการที่ขนาดหรือรูปร่างของเต้านมและหัวนมผิดปกตินอกจากนี้หากมีของเหลวไหลออกจากหัวนมหรือรู้สึกเจ็บบริเวณเต้านมหรือหน้าอกโดยไม่มีสาเหตุก็ควรรีบเข้ารับการตรวจโดยเร็วเพราะอาจเป็นสัญญาณเริ่มต้นของโรคเต้านมหรือมะเร็งเต้านมได้

มัดรวม 3 ความเข้าใจผิดที่พบบ่อยเกี่ยวกับมะเร็งเต้านม

รู้ไหมว่าถุงน้ำในเต้านมส่วนใหญ่ไม่เป็นอันตรายและไม่ได้เพิ่มความเสี่ยงการเกิดมะเร็งเต้านมเพราะเป็นการเปลี่ยนแปลงตามธรรมชาติของต่อมน้ำนมที่พบได้บ่อยโดยเฉพาะในช่วงก่อนมีประจำเดือนนอกจากนี้การใส่บราที่แน่นหรือมีโครงเป็นเวลานานก็ไม่ได้ทำให้เกิดมะเร็งเต้านมเช่นกันอีกหนึ่งความเข้าใจผิดคือผู้ชายจะไม่เป็นมะเร็งเต้านมแต่ในความจริงแล้วผู้ชายก็เป็นโรคเต้านมหรือมะเร็งเต้านมได้แม้จะพบน้อยกว่าผู้หญิงมากตัวอย่างเช่นภาวะเต้านมโต (Gynecomastia) ซึ่งควรได้รับการตรวจเมื่อพบความผิดปกติเช่นเดียวกัน

คลำเต้านม–แมมโมแกรม–อัลตราซาวด์ตรวจวิธีไหนให้เหมาะกับอายุ

สำหรับผู้หญิงที่อายุ 20 ปีขึ้นไปควรคลำเต้านมด้วยตนเองเป็นประจำทุกเดือนเพื่อสังเกตความเปลี่ยนแปลงหรือความผิดปกติที่อาจเกิดขึ้นส่วนผู้หญิงที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไปควรเข้ารับการตรวจคัดกรองด้วยเครื่องเอกซเรย์เต้านมหรือที่เรียกว่าแมมโมแกรม (Digital Mammogram) ร่วมกับการอัลตราซาวด์ (Ultrasound) อย่างน้อยปีละครั้งเพื่อให้ตรวจหาความผิดปกติได้แม่นยำมากขึ้นสำหรับกลุ่มเสี่ยงเช่นครอบครัวเป็นมะเร็งเต้านมหรือรังไข่เคยฉายรังสีที่หน้าอกมีความผิดปกติของพันธุกรรม BRCA หรือมีเนื้อเยื่อเต้านมหนาแน่นมากแนะนำให้เริ่มตรวจคัดกรองเร็วกว่าปกติและหากพบอาการผิดปกติใดๆควรรีบมาพบแพทย์เพื่อตรวจเพิ่มเติมทันที

แพทย์ชี้อย่าเข้าใจผิดแมมโมแกรมปลอดภัยคัดกรองได้แม่นยำ

นพ. ศิวรักษ์ตันตินราวัฒน์ไขข้อสงสัยเกี่ยวกับการตรวจแมมโมแกรมที่ว่ารังสีจากการตรวจอาจเป็นอันตรายต่อร่างกายหรือการกดทับเต้านมระหว่างตรวจอาจทำให้เกิดมะเร็งได้ซึ่งความจริงแล้วปริมาณรังสีที่ใช้ในการตรวจแมมโมแกรมนั้นน้อยมากและไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพอีกทั้งเครื่องแมมโมแกรมรุ่นใหม่ยังออกแบบให้หนีบเต้านมอย่างนุ่มนวลทำให้แมมโมแกรมเป็นวิธีที่ปลอดภัยและมีประโยชน์ในตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมตั้งแต่ระยะเริ่มต้นส่วนขนาดของเต้านมก็ไม่มีผลต่อความแม่นยำในการตรวจแมมโมแกรมหรืออัลตราซาวด์แต่การมีความหนาแน่นของเต้านมมากอาจลดความไวในการตรวจของแมมโมแกรมเล็กน้อย แต่ถ้าใช้อัลตราซาวด์ร่วมด้วยก็ยังตรวจได้อย่างแม่นยำ

แนวทางการรักษามะเร็งเต้านมเฉพาะบุคคลเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

การรักษามะเร็งเต้านมจะพิจารณาตามระยะและชนิดของโรคและประเมินสภาพร่างกายของผู้ป่วยอย่างละเอียดเพื่อเลือกแนวทางการรักษาที่เหมาะสมและปลอดภัยที่สุดโดยวิธีการรักษาหลักประกอบด้วยการผ่าตัดการฉายแสงและการให้ยา (Systemic Treatment) ซึ่งรวมถึงยาเคมีบำบัดยาต้านฮอร์โมนยามุ่งเป้าและยากลุ่มภูมิคุ้มกันบำบัด

“เข้าใจว่าผู้หญิงหลายคนอาจรู้สึกกลัวหรืออายที่ต้องมาตรวจเต้านมแต่การตรวจเต้านมนั้นสำคัญมากเพราะหากตรวจพบมะเร็งตั้งแต่ระยะเริ่มต้นก็มีโอกาสรักษาหายสูงและมีทางเลือกในการรักษามากขึ้นดังนั้นอยากให้ทุกคนหมั่นคลำตรวจเต้านมด้วยตัวเองควบคู่กับการมาตรวจกับแพทย์สม่ำเสมอการตรวจใช้เวลาไม่นานไม่เจ็บและอยู่ภายใต้การดูแลของบุคลากรทางการแพทย์ที่เข้าใจความรู้สึกของผู้เข้ารับการตรวจเพื่อให้ทุกคนมั่นใจและไม่รู้สึกเขินอายระหว่างการดูแล”นพ. ศิวรักษ์ ตันตินราวัฒน์ก ล่าวทิ้งท้าย

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง