จี้ปรับแนวทางสร้างเขื่อนกันคลื่น หลังเขื่อนในสงขลางบ 109 ล้าน โดนคลื่นถล่มพังยับ

ข่าววันนี้ จากกรณีที่เพจเฟซบุ๊ก ปฏิบัติการหมาเฝ้าบ้าน เผยถึงโครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมทะเล ดำเนินการโดยกรมโยธาธิการและผังเมือง ใช้งบประมาณกว่า 109,600,000 บาท บริเวณหาดทรายแก้ว ต.ชิงโค อ.สิงหนคร จ.สงขลา สร้างเสร็จไม่ถึงปีแต่ได้รับความเสียหายจากคลื่นซัดถล่มอย่างรุนแรง ระยะประมาณ 500 เมตร
ล่าสุด เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม ผู้สื่อข่าวเดินทางไปตรวจสอบที่หาดทรายแก้วพบว่าสภาพความเสียหายนั้น มีทั้งช่องทางปั่นจักรยาน ช่องทางเดินบริเวณด้านหลังกำแพงกันคลื่นที่เป็นจุดพักผ่อน ทางเดินเท้าได้รับความเสียหายในสภาพพังยังเยิน มีร่องรอยสนิมเกาะกินเหล็กภายในคอนกรีต ซึ่งนอกจากจุดนี้แล้วยังพบว่ามีความเสียหายเกิดขึ้นหลายจุด ทำให้ถูกวิจารณ์อย่างมากว่า ใช้งบประมาณจำนวนมาก แต่กลับไม่สามารถแก้ปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เขื่อนกันคลื่นบริเวณนี้ดำเนินการโดยกรมโยธาธิการและผังเมือง ในระยะ 990 เมตร ใช้งบประมาณ 109 ล้านบาทเศษ นอกจากจะเป็นเขื่อนกันคลื่นแล้ว ยังมีการปรับภูมิทัศน์ชายหาดด้วยการสร้างศาลาชมวิว รวมถึงทางเท้าและทางจักรยาน แต่การก่อสร้างแล้วเสร็จเพียงประมาณ 1 ปี กลับถูกคลื่นสู้กลับ จนเสียหายอย่างหนัก โดยกรมโยธาธิการและผังเมืองมีโครงการเขื่อนกันคลื่นหลายจุดตลอดแนวชายหาดตั้งแต่ อ.สิงหนคร ต่อเนื่องไปจนถึง อ.ระโนด จ.สงขลา
นายปรีชา สุขเกษม ประชาชนชาวสิงหนครและอดีตผู้ทรงคุณวุฒิ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ลงพื้นที่ตรวจสอบความเสียหายของเขื่อนคลื่นแห่งนี้ พบว่าปัญหาที่เกิดขึ้นมีการคาดการณ์ หรือการเตือนล่วงหน้าของนักวิชาการด้านชายฝั่งมาก่อนแล้ว แต่กรมโยธาธิการฯกลับไม่เคยเชื่อ ยังคงดึงดันเดินหน้าโครงการ โดยใช้งบประมาณจำนวนมหาศาล ซึ่งหากหยุดการก่อสร้างเขื่อนกันคลื่นแล้วนำเงินงบประมาณที่จะใช้ในการก่อสร้างมาเยียวยาชาวบ้านผู้ได้รับผลกระทบ ไม่มีการสร้างเขื่อนต่อเนื่องไปเช่นนี้ ธรรมชาติก็จะคืนทรายให้ชายหาดหลังผ่านพ้นฤดูมรสุม
นายปรีชากล่าวว่า แต่ว่ากันว่า หากใช้เงินเยียวยาชาวบ้านก็จะไม่มีเงินทอนกลับมา จึงอยากเรียกร้องไปยัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รวมทั้งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้ทบทวนการสร้างเขื่อนกันคลื่นทั้งหมด โดยอาจจะมาดูผลกระทบที่เกิดขึ้นที่หาดทรายแก้ว อ.สิงหนคร แห่งนี้
“วันนี้ชาวบ้านในพื้นที่ อ.สิงหนคร ที่มาท่องเที่ยวชายหาดแห่งนี้ ไม่สามารถลงเล่นน้ำทะเลได้เหมือนเดิม เพราะมีการสร้างเขื่อนกันคลื่น จนทำให้ชายหาดหายไป และในอนาคตหากปล่อยให้มีการสร้างเขื่อนเช่นนี้ไปเรื่อย ต่อไปลูกหลานก็จะเห็นชายหาดจากภาพถ่ายเท่านั้น” นายปรีชากล่าว
Tag
บทความน่าสนใจอื่นๆ
