รีเซต

เช็กให้ชัวร์ให้กิน 4 สูตรนี้ มีสรรพคุณช่วยลดน้ำหนักได้จริงหรือ?

เช็กให้ชัวร์ให้กิน 4 สูตรนี้ มีสรรพคุณช่วยลดน้ำหนักได้จริงหรือ?
TNN ช่อง16
24 กุมภาพันธ์ 2565 ( 12:11 )
136

วันนี้ (24ก.พ.65) สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับการแชร์สำหรับสูตรลดน้ำหนักต่าง ๆ ในโลกออนไลน์ และแต่ละสูตรก็เคลมว่าทำง่าย ๆ ได้ผลจริง ดังนั้น เราจึงเลือกสูตรที่คนนิยมแชร์กัน มาแฉว่าแต่ละสูตรนั้นสามารถช่วยลดน้ำหนักได้หรือไม่

สูตรดื่มน้ำต้มมะนาวลดความอ้วน

อันที่จริงสูตรนี้สามารถกินได้ไม่เป็นอันตราย แต่จะไม่ได้ผลลัพธ์ตามที่อวดอ้างนะ คือ “น้ำต้มมะนาวไม่สามารถลดความอ้วนได้” เพราะมะนาว เป็นพืชที่มีวิตามินซีสูง และมีสรรพคุณในทางยาช่วยบรรเทาอาการไอ ขับเสมหะ และช่วยการขับถ่าย หากกินมากเกินไปอาจทำให้ระคายเคืองกระเพาะอาหาร ที่สำคัญ เมื่อนำไปต้มและโดนความร้อน วิตามินซีจะหายไปถึง 80%

สูตรสมุนไพร น้ำมะนาว น้ำผึ้ง ขิง และว่านหางจระเข้ ช่วยละลายไขมัน ลดหน้าท้อง เร่งลดน้ำหนัก

สูตรนี้จะมีสมุนไพรหลายชนิด และสมุนไพรแต่ละชนิดก็มีสรรพคุณที่แตกต่างกัน อย่าง มะนาว ช่วยบรรเทาอาการไอ ขับเสมหะ น้ำผึ้ง มีส่วนประกอบหลักคือ น้ำตาล ยิ่งกินก็ยิ่งอ้วน ขิง ใช้ขับลม แก้อาเจียน และว่านหางจระเข้ ใช้วุ้นจากใบว่านหางจระเข้รักษาแผลสด แผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก จะเห็นได้ว่าสมุนไพรสูตรนี้ไม่มีสรรพคุณในการช่วยลดน้ำหนักเลย ฉะนั้น สูตรนี้จึงไม่สามารถลดไขมันได้

สูตรกระชาย น้ำผึ้ง มะนาว ช่วยลดน้ำหนัก

สำหรับสูตรนี้ กระชาย มีสรรพคุณบรรเทาอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ แก้จุกเสียด มะนาว  มีสรรพคุณช่วยบรรเทาอาการไอ ขับเสมหะ ส่วน น้ำผึ้ง มีส่วนประกอบหลักคือ น้ำตาล ยิ่งกินมากก็ยิ่งอ้วนได้ ดังนั้น สรุปได้ว่า ดื่มน้ำกระชายผสมน้ำผึ้งมะนาว ไม่สามารถช่วยลดน้ำหนักได้

สูตรน้ำขิง ผสมน้ำผึ้ง ช่วยลดน้ำหนัก

สูตรนี้ก็เป็นอีกสูตรหนึ่งที่มีน้ำผึ้งเป็นส่วนผสม ซึ่งน้ำผึ้งมีส่วนประกอบหลักคือ น้ำตาล ที่ยิ่งกินก็จะยิ่งอ้วน ส่วน ขิง ใช้ขับลม แก้อาเจียน ดังนั้น การดื่มน้ำขิงผสมน้ำผึ้งจะไม่ได้ช่วยลดน้ำหนักนะ แต่กลับจะทำให้อ้วนขึ้นกว่าเดิมได้

จะเห็นได้ว่า สูตรลดความอ้วนทั้ง 4 สูตรข้างต้น ไม่ได้มีสรรพคุณช่วยลดน้ำหนักตามที่กล่าวอ้างเลย ฉะนั้น อย่าเชื่อ อย่าทำตาม และอย่าแชร์ต่อ ถ้าต้องการลดน้ำหนัก แนะนำให้ควบคุมอาหาร เลือกรับประทานผักและผลไม้ เลี่ยงการรับประทานอาหารที่มีไขมันสูง และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ


ภาพจาก สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา

 

ข้อมูลจาก สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา

ภาพจาก AFP / สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง