ไทย-กัมพูชาถอนกำลังช่องบก ใช้ JBC แก้ปัญหาเขตแดน

ไทย-กัมพูชาบรรลุข้อตกลงถอนกำลังจากพื้นที่ปะทะช่องบก พร้อมใช้กลไก JBC แก้ไขปัญหาเขตแดนระดับรัฐบาล คุมเข้มไม่ให้เกิดเหตุซ้ำ
ไทย-กัมพูชาถอนกำลังช่องบก บรรลุข้อตกลงใช้ JBC แก้ข้อขัดแย้งชายแดน
เหตุปะทะระหว่างทหารไทยและกัมพูชาเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2568 บริเวณช่องบก จังหวัดอุบลราชธานี ได้คลี่คลายลงภายหลังการเจรจาระดับสูงระหว่างผู้บัญชาการทหารบกของทั้งสองประเทศ ซึ่งบรรลุข้อตกลงในการถอนกำลังออกจากพื้นที่ที่เกิดเหตุ และยืนยันแนวทางการแก้ไขปัญหาผ่านกลไกระดับรัฐบาล
ผบ.ทบ.ไทย-กัมพูชาเจรจาที่ช่องจอม
เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 29 พฤษภาคม พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก พร้อมคณะ ได้เดินทางไปยังจุดผ่านแดนถาวรช่องจอม อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ เพื่อพบปะหารือกับ พลเอก เมา โซะพัน ผู้บัญชาการทหารบกกัมพูชา การเจรจาครั้งนี้เป็นการพบปะต่อเนื่องจากการพูดคุยผ่านระบบทางไกลเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม ซึ่งเป็นวันเดียวกับที่เกิดเหตุปะทะในพื้นที่ชายแดน
ผู้บัญชาการทหารบกไทยได้กล่าวแสดงความเสียใจต่อการสูญเสียกำลังพลของฝ่ายกัมพูชา และเน้นย้ำถึงความตั้งใจของทั้งสองฝ่ายในการใช้การพูดคุยเพื่อยุติความตึงเครียด โดยยืนยันว่าฝ่ายไทยไม่มีเจตนาแทรกแซงอธิปไตยของกัมพูชา
ใช้ JBC เป็นกลไกหลักแก้ปัญหา
ทั้งสองประเทศมีความเห็นร่วมกันในการใช้กลไกคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม หรือ JBC ซึ่งเป็นกลไกระดับรัฐบาล ในการหาข้อยุติเกี่ยวกับพื้นที่ทับซ้อนบริเวณช่องบก โดยคาดว่าการประชุม JBC จะมีความคืบหน้าและได้ข้อสรุปภายในสองสัปดาห์
ขณะเดียวกัน กำลังพลจากทั้งสองฝ่ายที่อยู่ในพื้นที่ปะทะได้ถอนกำลังกลับไปยังจุดตั้งเดิมแล้ว พร้อมทั้งมีข้อตกลงร่วมกันในการใช้กลไกคณะกรรมการรักษาความสงบเรียบร้อยชายแดน หรือ RBC เพื่อแก้ไขประเด็นที่อาจค้างคา และเสริมประสิทธิภาพของ JBC
กำกับควบคุมพื้นที่เข้ม ป้องกันเหตุซ้ำ
ทั้งผู้บัญชาการทหารบกไทยและกัมพูชาได้เน้นย้ำว่า กำลังพลในพื้นที่จะต้องปฏิบัติหน้าที่ภายใต้กรอบของการเจรจาอย่างเคร่งครัด โดยฝ่ายกัมพูชาแสดงจุดยืนชัดเจนว่า หากพบการฝ่าฝืนข้อตกลง จะดำเนินการถอนกำลังโดยทันที และยืนยันว่าหน่วยกำลังทุกฝ่ายสามารถควบคุมได้โดยตรงจากส่วนกลาง
ฝ่ายไทยยังคงติดตามสถานการณ์ในพื้นที่อย่างใกล้ชิด และเตรียมพร้อมสำหรับภารกิจต่าง ๆ เพื่อดูแลความสงบเรียบร้อยบริเวณชายแดน พร้อมประสานความร่วมมือกับกัมพูชาอย่างต่อเนื่อง
ประชาชนได้ประโยชน์จากความร่วมมือ
การเจรจาระหว่างผู้นำทหารของทั้งสองประเทศครั้งนี้ มีบรรยากาศที่เป็นมิตรและสร้างความเชื่อมั่นว่าจะไม่มีการใช้กำลังเป็นทางออกของปัญหา ความคืบหน้าในการใช้กลไก JBC ถือเป็นก้าวสำคัญในการป้องกันความขัดแย้งซ้ำซ้อน และส่งเสริมความร่วมมือในระดับชายแดน โดยเฉพาะในด้านเศรษฐกิจและความเป็นอยู่ของประชาชนในพื้นที่