‘โควิด’ ทำมะกัน 22 ล้านคนตกงาน ‘ทรัมป์’ จ่อเปิดประเทศ
สหรัฐอเมริกากลายเป็นประเทศที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่รุนแรงที่สุดในโลก โดยมีทั้งจำนวนผู้เสียชีวิตและผู้ติดเชื้อมากที่สุดติดต่อกันมาอย่างยาวนาน การแพร่ระบาดดังกล่าวยังส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐอย่างหนัก โดยตัวเลขการว่างงานล่าสุดในสหรัฐพุ่งสูงถึง 22 ล้านคน เมื่อวันที่ 16 เมษายนผ่านมา
ตัวเลขดังกล่าวมาจากกระทรวงแรงงานสหรัฐซึ่งระบุว่ามีผู้ว่างานในสหรัฐเพิ่มขึ้น 5.2 ล้านคนเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นผลจากมาตรการปิดเมืองที่ทำให้ภาคธุรกิจต่างๆ ต้องปิดตัวลง รวมถึงคำสั่งควบคุมการเคลื่อนไหวของผู้คนเพื่อสกัดกั้นการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา ทำให้จำนวนผู้มาลงทะเบียนเป็นผู้ว่างานในสหรัฐเพิ่มขึ้นถึง 22 ล้านคน
แม้ตัวเลขการว่างงานของสหรัฐในสัปดาห์ล่าสุดนี้จะลดลงกว่าสัปดาห์ก่อน ซึ่งเป็นเครื่องบ่งชี้ว่าการให้คนออกจากงานอาจจะอยู่ในสถานการณ์คงที่แล้ว แต่ตัวเลขดังกล่าวยังถือว่าสูงเป็นประวัติการณ์ และสะท้อนให้เห็นถึงผลกระทบที่หนักหนาสาหัสต่อตลาดแรงงานของสหรัฐ เพราะเท่ากับว่าชาวอเมริกันทุก 1 ใน 7 คนขณะนี้คือผู้ว่างงาน
ขณะที่ตัวเลขจากสำนักงานสถิติของสหรัฐเปิดเผยรายละเอียดผลกระทบของโควิด-19 ที่มีต่อตลาดอสังหาริมทรัพย์ในสหรัฐ โดยตัวเลขการสร้างบ้านใหม่ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ลดลงไปมากกว่า 22% ด้านรายงานของธนาคารกลางสหรัฐชี้ให้เห็นว่า ดัชนีของอุตสาหกรรมการผลิตสินค้าทางฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐก็ร่วงลงอย่างหนักเช่นกัน
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐเตรียมที่จะประกาศแนวทางในการทำให้ธุรกิจต่างๆ ในสหรัฐกลับมาเปิดทำการและเปิดให้บริการอีกครั้ง เพื่อลดผลกระทบที่มีต่อระบบเศรษฐกิจ โดยให้อำนาจแก่ผู้ว่าการรัฐต่างๆ ที่จะกำหนดมาตรการของตนเอง
หนึ่งในประเด็นที่ทรัมป์เห็นว่าต้องทำคือการผ่อนคลายมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม หรือโซเชียล ดิสแทนซิ่ง และให้รัฐต่างๆประกาศให้ทางธุรกิจกลับมาดำเนินการได้ตามปกติในช่วงไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า พร้อมกันนี้จะมีการดำเนินการตรวจสอบเพื่อหาผู้ติดเชื้ออย่างเข้มข้นมากขึ้น จนเห็นการลดลงของผู้ติดเชื้อรายใหม่