รีเซต

จิตใจทำด้วยอะไร!หนุ่มซัดบุพเฟ่ต์นาน 9 ชม. เบี้ยวไม่จ่ายเด็กเสิร์ฟต้องชดใช้แทน

จิตใจทำด้วยอะไร!หนุ่มซัดบุพเฟ่ต์นาน 9 ชม. เบี้ยวไม่จ่ายเด็กเสิร์ฟต้องชดใช้แทน
TNN ช่อง16
9 มีนาคม 2564 ( 09:11 )
59
จิตใจทำด้วยอะไร!หนุ่มซัดบุพเฟ่ต์นาน 9 ชม. เบี้ยวไม่จ่ายเด็กเสิร์ฟต้องชดใช้แทน

วันนี้ ( 9 มี.ค. 64 )จากกรณีที่ ผู้ที่ใช้เฟซบุ๊กชื่อบัญชี  Dolruedee Godpetchr โพสต์คลิปภาพวงจรปิด ลูกค้าเป็นชายอายุประมาณ 30 - 40 ปี  เข้ามานั่งสั่งอาหารและเบียร์ในร้านกิน โดยลูกค้าเข้ามาในร้านตั้งแต่เวลา 11.00 น. จนถึงเวลา 19.52 น. ก่อนจะตีเนียนลุกเดินไปเข้าห้องน้ำ  และอาศัยจังหวะเดินหลบออกไป และเดินอ้อมไปทางลานจอดรถ ก่อนจะไปขึ้นรถเก๋งที่มาจอดรอรับหน้าร้านหลบหนีไป  พร้อมติดแฮชแท็ก #กินแล้วไม่จ่าย#เมาแล้วเนียน#อย่าหาทำ

 

ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังร้านสเต็กลุงช้าง สาขาปั๊ม ปตท.ตั้งอยูู่บนทางเลียบรถไฟ อำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่  เพื่อสอบถาม นางสาวดลฤดี โกฏิเพ็ชร อายุ 43 ปี เจ้าของร้านสเต็กลุงช้าง ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

 

นางสาวดลฤดี กล่าวว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ หลังร้านเปิดในเวลา 10.00 น.ลูกค้ารายนี้เป็นชายอายุประมาณ 30-40 ปี มีรถเก๋งขับมาจอดส่งหน้าร้านและเดินเข้ามาใช้บริการในเวลา 11.00 น. และเดินไปนั่งที่โต๊ะหมายเลข 37 ริมน้ำ พนักงานจึงเดินไปขอให้ลูกค้าลงทะเบียนแจ้งชื่อและเบอร์โทรศัพท์ ตามมาตราป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19   จากนั้นลูกค้าได้สั่งอาหาร และเบียร์นั่งดื่ม ตลอดเวลาที่ลูกค้านั่ง จะนั่งอยู่เงียบๆ ไม่ค่อยพูดคุยกับพนักงาน และพีจีที่มาให้บริการ บางครั้งก็มีนั่งฟุบหลับบนโต๊ะ และลุกไปเข้าห้องน้ำโดยวางโทรศัพท์ทิ้งไว้ ซึ่งทางร้านได้กำชับให้พนักงานช่วยดูทรัพย์สินของลูกค้าด้วย

 

กระทั่งเวลาเกือบ 20.00 น. ลูกค้าก็ใช้โทรศัพท์ ก่อนจะลุกขึ้นไปเข้าห้องน้ำ โดยน้ำทรัพย์สินติดตัวไปด้วย ซึ่งพนักงานก็ไม่ได้สังเกตเพราะปกติลูกค้าจะเดินเข้าห้องน้ำอยู่แล้ว แต่ปรากฎว่าลูกค้ารายนี้ไม่กลับมานั่งตามเดิม พนักงานเริ่มเอะใจจึงเดินไปตรวจสอบที่กล้องวงจรปิด ก็พบว่าลูกค้ารายนี้ได้เดินอ้อมไปทางลานจอดรถไปยังหน้าร้าน เพื่อขึ้นรถเก๋งสีขาวที่จอดรออยู่หลบหนีออกไป  พนักงานจึงนำบิลค่าอาหารออกมา และรีบโทรแจ้งตนเองทันที  ตนจึงรีบขอเบอร์โทรที่ลูกค้าลงทะเบียนไว้ และโทรไปหาเพื่อแจ้งให้ลูกค้าทราบว่าลืมจ่ายเงิน แต่ลูกค้าไม่รับสาย

 

นางสาวดลฤดี บอกว่า ตนได้โทรศัพท์หาลูกค้าติดต่อกัน 3 วัน แต่ไม่รับสาย จนครั้งสุดท้ายลูกค้าปิดเครื่อง สุดท้ายตนเองจึงต้องนำหลักฐานคลิปวงจรปิดในร้านเข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.สารภี เพื่อติดตามลูกค้ารายนี้มาดำเนินคดี และชดใช้ค่าอาหารและเครื่องดื่ม ซึ่งเมนูอาหารที่ลูกค้าสั่ง  มีหอยนางรม 4 ตัว ราคา 180 บาท  , สุกี้น้ำเนื้อ 1 จาน ราคา 45 บาท , หอยแครงลวกครึ่งโลกรัม  ราคา 194.25 บาท ,  ตำปูปลาร้า   1  จาน 45 บาท  , เอ็นเนื้อผัดพริก ราคา 98 บาท  และเบียร์ 6 ขวด  ราคา 408  บาท รวมเป็นเงินทั้งหมด 970.25 บาท 

 

ที่ผ่านมาก็เคยมีลูกค้ามาสั่งอาหารกินแล้วไม่จ่ายหลายราย  รายล่าสุดค่าอาหารประมาณ 200 กว่าบาท ทำให้พนักงาน 40 คน ต้องนำทิปมาช่วยกันแชร์จ่ายค่าอาหารแทนลูกค้าตนเองรู้สึกเห็นใจพนักงาน จึงต้องนำหลักฐานเข้าใจความ แต่เวลาผ่านไปตำรวจก็ยังไม่สามารถติดตามลูกค้ารายนี้ได้ จึงนำคลิปโพสต์ลงโซเชียลมีเดีย เพื่อเตือนภัยร้านอาหาร และฝากถึงลูกค้ารายนี้ให้ช่วยกลับมาจ่ายค้าอาหารด้วย เพราะสงสารพนักงาน  หากไม่มีเงินจ่ายจริงๆก็มาเจรจากัน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง