ซิดนีย์เล็งเปิดเมืองรับนักท่องเที่ยวนานาชาติ ฉีดวัคซีนแล้วไม่ต้องกักตัว

รอยเตอร์รายงานเมื่อวันที่ 15 ตุลาคมนี้ ว่า นครซิดนีย์ เตรียมเปิดเมืองรับนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศแบบเต็มรูปแบบ ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายนนี้เป็นต้นไป โดยนักเดินทางที่ผ่านการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ครบ 2 เข็ม ไม่จำเป็นต้องกักตัวอีกต่อไป

การตัดสินใจดังกล่าว มีขึ้นหลังจาก รัฐนิวเซาธ์เวลส์ ซึ่งมีซิดนีย์เป็นเมืองเอก มีกำหนดจะฉีดวัคซีนเข็มแรกให้กับประชากรในรัฐได้ถึง 80 เปอร์เซ็นต์ ในวันที่ 16 ตุลาคมนี้ อันเป็นอัตราส่วนการฉีดวัคซีนที่สูงกว่าทุกรัฐในออสเตรเลียในเวลานี้ และทำให้ นิวเซาธ์เวลส์ สามารถเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติได้เร็วกว่ารัฐอื่นๆ หลายสัปดาห์

“เราต้องกลับเข้าไปอยู่ร่วมกับโลกอีกครั้งหนึ่ง เราไม่สามารถอยู่อย่างฤาษีต่อไปได้อีกแล้ว เราต้องเปิดเมือง” นาย โดมินิค เพอร์ร็อตเทต มุขมนตรีนิวเซาธ์เวลส์ ยืนยัน

ทั้งนี้ ออสเตรเลีย ปิดประเทศมาตั้งแต่เดือนมีนาคม 2020 เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยอนุญาตให้เฉพาะพลเมืองและผู้มีถิ่นพำนักถาวรในประเทศเท่านั้นเดินทางเข้าประเทศ แต่ต้องใช้เวลากักตัวอยู่ในโรงแรมที่รัฐกำหนดไว้เป็นเวลา 2 สัปดาห์

ในขณะที่ชาวออสเตรเลียเองก็ไม่ได้เดินทางระหว่างประเทศมานานต่อเนื่องถึง 18 เดือน พร้อมกันนั้น ก็มีชาวออสเตรเลียอีกเป็นจำนวนมากไม่สามารถเดินทางกลับประเทศได้ ทำให้หลายคนที่ติดค้างอยู่ในต่างประเทศ เตรียมเดินทางกลับบ้านเกิดโดยอาศัยซิดนีย์เป็นทางผ่าน

ยอดติดเชื้อโควิด-19ในรัฐนิวเซาธ์เวลส์ เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม ลดลงเหลือเพียง 399 ราย จากเดิมที่เคยมีสูงถึง 1,599 รายเมื่อราวต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา ในขณะที่รัฐวิคตอเรีย ซึ่งอยู่ติดกัน ที่มีอัตราการฉีดวัคซีนต่ำกว่ามาก ยังคงพบผู้ติดเชื้อมากถึง 2,179 รายในวันเดียวกันนี้