รีเซต

WHO เตือนทั่วโลกงดปาร์ตี้ หวั่นโอมิครอนระบาดเกินควบคุม

WHO เตือนทั่วโลกงดปาร์ตี้ หวั่นโอมิครอนระบาดเกินควบคุม
TNN ช่อง16
21 ธันวาคม 2564 ( 16:30 )
74
WHO เตือนทั่วโลกงดปาร์ตี้ หวั่นโอมิครอนระบาดเกินควบคุม

---ยกเลิกงานดีกว่าเสียชีวิต---



นายแพทย์เทดรอส อัดฮานอม เกเบรเยซุส ผู้อำนวยการ WHO กล่าวว่า ยกเลิกเหตุการณ์บางอย่างดีกว่าชีวิตถูกยกเลิก ถึงจะเป็นการตัดสินใจที่ยากลำบาก ก็ต้องทำ ในบางกรณี เหตุการณ์บางอย่างยกเลิก หรือเลื่อนออกไปก่อนได้ ยกเลิกไปตอนนี้ดีกว่า และฉลองในภายหลังดีกว่าฉลองกันในตอนนี้แล้วไปเศร้าเสียใจในภายหลัง เพราะขณะนี้ มีหลักฐานชัดเจนว่า โอมิครอนกำลังระบาดรวดเร็วกว่าสายพันธุ์เดลตาอย่างมีนัยสำคัญ หลังพบครั้งแรกในแอฟริกาใต้ในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ซึ่ง WHO ยกระดับให้เป็นไวรัสที่น่าวิตกกังวล เขากล่าวเพิ่มเติมว่า ทุกคนรู้สึกเบื่อหน่ายกับการระบาดของไวรัส และทุกคนก็ต้องการใช้เวลาอยู่กับเพื่อนและครอบครัว แต่ก็ต้องการกลับมาใช้ชีวิตปกติ 


---การระบาดอาจจบใน 2022---



ดร.เทดรอส ย้ำด้วยว่า การระบาดใหญ่ของไวรัสอาจไปสิ้นสุดในปี 2022 หากประชาชนร้อยละ 70 ของทุกประเทศทั่วโลก ฉีดวัคซีนครบภายในกลางปีหน้า 


"ผมรู้ว่าเราทุกคนต่างทรมานกับการระบาดใหญ่ ทุกคนต่างต้องการใช้เวลาร่วมกับเพื่อนฝูงและครอบครัว ทุกคนต่างต้องการชีวิตปกติกลับคืน ซึ่งหนทางที่เร็วที่สุดที่สิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นได้ คือ เราทุกคน และผู้นำ จะต้องทำในสิ่งที่ตัดสินใจได้ยาก เพื่อปกป้องชีวิตของเราและคนอื่น ๆ" 


---สาธารณสุขกำลังตึงเครียด---


ขณะเดียวกัน โสมยา สวามีนาธาน หัวหน้านักวิทยาศาสตร์ขององค์การอนามัยโลก กล่าวในวันจันทร์ว่า จะเป็นเรื่อง “ไม่ฉลาด” ที่จะสรุปจากหลักฐานเบื้องต้นว่า โอมิครอนเป็นสายพันธุ์ที่ไม่รุนแรงเท่าสายพันธุ์ก่อนหน้า เธอเตือนว่า ด้วยจำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มสูงขึ้นนี้ กำลังทำให้ระบบสาธารณสุขตกอยู่ภายใต้ความตึงเครียดอีกครั้ง โอมิครอนกำลังระบาดเร็วกว่าสายพันธุ์เดลตา และสามารถแพร่เชื้อในคนที่ฉีดวัคซีน หรือแม้แต่คนหายจากการติดเชื้อโควิดแล้ว ก็กลับมาติดซ้ำได้อีก 


สวามีนาธาน กล่าวอีกว่า โอมิครอนประสบความสำเร็จในการหลบหลีกภูมิคุ้มกัน ซึ่งนั่นก็หมายความว่า โครงการฉีดวัคซีนกระตุ้นภูมิที่เริ่มขึ้นในหลายประเทศ ควรจะมีเป้าหมายอยู่ที่ประชาชนที่มีระบบภูมิคุ้มก่อนอ่อนแอด้วย


---ทั่วโลกยกระดับคุมเข้มโควิด---



ถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่ระดับสูงขององค์การอนามัยโลก มีขึ้นขณะที่ หลายประเทศ ซึ่งรวมทั้งฝรั่งเศสและเยอรมนี ประกาศใช้มาตรการคุมเข้มโควิด และควบคุมการเดินทางเพื่อพยายามที่จะหยุดการระบาดของไวรัสสายพันธุ์ใหม่ ขณะที่เนเธอร์แลนด์ใช้มาตรการจำกัดพื้นที่อย่างเข้มข้นมากขึ้นในช่วงเทศกาลคริสต์มาส


อย่างไรก็ตาม ทำเนียบขาว แถลงในวันจันทร์ว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐฯ ไม่มีแผนจำกัดพื้นที่ในประเทศ แม้ว่านายแพทย์แอนโทนี เฟาซี ผู้อำนวยการสถาบันโรคภูมิแพ้และโรคติดเชื้อแห่งชาติของสหรัฐฯ ออกมาเตือนล่วงหน้าว่า การเดินทางช่วงเทศกาลคริสต์มาสจะเพิ่มการระบาดของโอมิครอนมากขึ้น แม้ในกลุ่มผู้ที่ฉีดวัคซีนครบแล้ว พร้อมกระตุ้นให้ประชาชนออกมารับวัคซีนเข็มกระตุ้นภูมิ หรือบูสเตอร์ พร้อมย้ำเตือนว่า จำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจะสร้างภาระหนักให้กับระบบสาธารณสุขของสหรัฐฯ โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีอัตราการระบาดสูง


ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐฯ หรือซีดีซี และกระทรวงต่างประเทศ ได้แนะนำชาวอเมริกันไม่ให้เดินทางไปยัง 8 ประเทศและดินแดน ซึ่งรวมทั้งสเปน, ฟินแลนด์, ชาด และเลบานอน และยังเพิ่มโบแนเรอ, โมนาโก, ซานมาริโน และยิบรอลตา เป็นดินแดนที่มีความเสี่ยงสูงมากระดับ 4 ผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขของสหรัฐฯ แถลงว่า ขณะนี้ โอมิครอนกลายเป็นสายพันธุ์หลักในสหรัฐฯไปแล้ว 


ส่วนในสหราชอาณาจักร นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน กล่าวในวันจันทร์ว่า รัฐบาลสหราชอาณาจักรจำเป็นต้อง “เตรียมพร้อมความเป็นไปได้” ในการนำกฎใหม่มาใช้ในอังกฤษ เพราะจำนวนผู้ติดเชื้อโอมิครอนพุ่งสูงขึ้น แต่ยังไม่ได้ประกาศมาตรการคุมเข้มอะไรเพิ่มเติม แต่ซาดิก ข่าน นายกเทศมนตรีกรุงลอนดอน แถลงว่า การฉลองเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ที่ลานจัตุรัสทราฟัลการ์กรุงลอนดอน ถูกยกเลิกไปแล้ว เพื่อความปลอดภัยของประชาชน 



ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง