“บิ๊กตู่” ยอมรับกองทุนน้ำมันติดลบ ครม. อนุมัติขอเงินกู้อีก 2 หมื่นล้าน วอนรถบรรทุกอย่ากดดัน
“บิ๊กตู่” ยอมรับกองทุนน้ำมันติดลบ ครม. อนุมัติขอเงินกู้อีก 2 หมื่นล้าน คาดสำรองจ่ายได้อีก 4 เดือน “วอน”รถบรรทุกอย่ากดดัน
เมื่อเวลา 13.15 น.ที่โรงแรมโซฟิเทล กระบี่ โภคีธรา กอล์ฟ แอนด์ สปา รีสอร์ท จังหวัดกระบี่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) สัญจรนอกสถานที่ ถึงแนวทางการแก้ไขปัญหา หลังกลุ่มสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย ทำกิจกรรมคาร์ม็อบ เคลื่อนขบวนรถบรรทุกในถนน 4 สายหลัก และมาชุมนุมบริเวณหน้ากระทรวงพลังงาน ว่า ยืนยันแล้วว่าเราต้องรักษาให้ได้ในราคา 30 บาทต่อลิตรก่อน และถ้าราคาน้ำมันมีการปรับลดลงทุกอย่างก็จะดีขึ้น เพราะขนาดตรึงแค่ราคา 30 บาท ก็ใช้เงินอุดหนุนไปประมาณเดือนละ 3,000 ล้านบาทลงไป ในส่วนของกองทุนน้ำมันนั้นอยู่ในสภาพที่ติดลบแล้ว และวันเดียวกันนี้ ครม.ได้มีการอนุมัติ เงินกู้ไปเพื่อนำงบประมาณมาใช้จ่ายสำรองไว้ในช่วง 4 เดือนข้างหน้า ซึ่งถ้าราคาน้ำมันลดลงก็ไม่มีปัญหาทุกอย่างก็จะกลับคืนเข้าสู่สภาวะปกติราคาน้ำมันก็จะลดลงมาเอง
ผู้สื่อข่าวถามว่าแต่มีความพยายามกดดันด้วยกันนำรถบรรทุกเคลื่อนไหวบนถนนสายหลักและมาชุมนุมที่บริเวณหน้ากระทรวงพลังงานจะแก้ปัญหาอย่างไร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เท่าที่ได้รับรายงานก็เป็นความเคลื่อนไหวของสมาคมรถบรรทุก ซึ่งในประเทศไทยก็มีหลายสมาคมยอมรับว่ามีคนจำนวนมากได้รับความเดือดร้อน รัฐบาลก็ต้องดูแลทุกคนซึ่งรัฐบาลก็จำเป็นต้องดูให้ละเอียดถี่ถ้วน
“ ขอร้องว่าอย่าใช้แรงกดดันมาเลย ขอให้เห็นใจประเทศชาติบ้างในเวลานี้ อย่างไรก็ตามวันเดียวกันนี้ได้มอบหมายให้กระทรวงคมนาคมไปจัดการขนส่งทางรถไฟ จะเอารถ บ.ข.ส. ในการขนส่งสินค้าเพิ่มเติมและถ้ามีความจำเป็นทหารก็พร้อมที่จะสนับสนุนให้ด้วย”
เมื่อถามว่า จำนวนเงินกู้เพื่อนำมาสำรองในกองทุนน้ำมันจำนวน 2 หมื่นล้านบาทใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เป็นเงินกู้จำนวน 2 หมื่นล้านบาท เพราะกติกาหรือกฎหมายกู้ได้เท่านั้น ส่วนจะใช้ได้กี่เดือนก็ต้องดู ปัจจุบันราคาน้ำมันก็เริ่มที่จะปรับตัวลงบ้าง แต่ถึงจะมีการปรับลดลงมาอย่างไรก็เกินราคาลิตรละ 30 บาทอยู่ดี เพราะต้นทุนยังคงสูงกว่าที่เราเคยเคยทำมา ตอนนี้ก็รอดูสถานการณ์น้ำมันโลกซึ่งปัจจุบันมีการแข่งขันกันมากมายมีการวางแผนกดดันกันพอสมควร เราก็คาดหวังว่าจะมีการลดราคาในเวลาอันใกล้ในขณะนี้ได้ เราจะได้กลับสู่ที่เดิมของเรา อย่าลืมว่าเรามีกองทุนน้ำมันที่สะสมเอาไว้และใช้ไปหมดแล้วด้วย
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าในส่วนของโครงสร้างก็มีหลายส่วนด้วยกัน ซึ่งในส่วนของภาษีก็กลับมาเป็นรายได้ของประเทศ ส่วนเรื่องค่าการตลาดก็จำเป็นต้องมี ดังนั้นถ้าให้ลดลงทั้งหมดแล้วรายได้ของประเทศจะมาจากตรงไหนก็ต้องช่วยกันคิดตรงนี้ ตนได้มอบหมายให้กระทรวงพลังงานไปพิจารณา อยู่ว่าจะทำอะไรได้บ้าง ซึ่งพวกเราไม่สามารถที่จะไปขุดเจาะน้ำมันจำนวนมากในประเทศไทยได้ ซึ่งเราใช้รถยนต์และยานพาหนะจำนวนมากจึงต้องขอร้องให้ช่วยกันประหยัดพลังงาน ในอนาคตก็คงจะต้องมีการใช้พลังงานไฟฟ้าตามที่ได้ประกาศไว้ 30% ในประเทศ