เปิดหน้าเทรด M Traders กลยุทธ์ Grid คู่ Trend Following

ในโลกของการเทรดที่เต็มไปด้วยกลยุทธ์หวือหวาเพื่อทำกำไรในระยะสั้น คุณเอ็ม - นิสิต น้อยแจ่ม หรือที่รู้จักกันในนาม "M Trader" Full-time Trader ที่มีประสบการณ์ในตลาดมานานกว่า 17 ปี ได้มาเปิดเผยแนวทางการลงทุนที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิงในรายการ WEALTH X กับกลยุทธ์ "Grid Trading" ที่เขาใช้เป็นหลักในการสร้างความมั่งคั่ง โดยไม่ได้มุ่งหวังที่จะรวยเร็วในสภาวะปกติ แต่เป็นการสร้าง "โรงงานปั่นเงินสด" ที่แข็งแกร่ง และรอคอยการเก็บเกี่ยวผลกำไรมหาศาลในยามที่ตลาดเกิดวิกฤต
Grid Trading: "โรงงานปั่นเงินสด" ที่ทำงานจากความผันผวน
คุณเอ็มอธิบายว่าหัวใจของ Grid Trading คือการมองสินทรัพย์เป็นการลงทุนระยะยาว และเก็บเกี่ยวกำไรจาก "ความผันผวน" (Volatility) ของมัน โดยการวางโซนราคาเป็นชั้นๆ ทั้งขาขึ้นและขาลง เมื่อราคาเคลื่อนไหวก็จะเกิดการซื้อขายทำกำไร (TP) เป็นเงินสดออกมาอย่างสม่ำเสมอ
"ข้อดีของกริดคือเราได้กระแสเงินสด เหมือนเรามีโรงงานที่ปั่นเงินตลอดเวลา ซึ่งต่างจากการลงทุนแบบ VI ที่จะเห็นกำไรก็ต่อเมื่อขายสินทรัพย์ออกไป แต่กริดทำให้เรามีเงินสดในมือทุกวันเพื่อนำไปต่อยอดได้" คุณเอ็มกล่าว
บทพิสูจน์ในยามวิกฤต: กรณีศึกษาน้ำมัน 40 ล้านบาท
แม้ในสภาวะปกติตามสถิติของเขา Grid Trading จะสร้างผลตอบแทนราว 2-3% ต่อเดือน แต่กลยุทธ์นี้จะแสดงศักยภาพสูงสุดเมื่อตลาดเกิดวิกฤต คุณเอ็มได้เล่าถึงประสบการณ์ที่สร้าง "Big Shot" ให้กับเขาในช่วงการระบาดของโควิด-19 ที่ราคาน้ำมันดิ่งลงอย่างรุนแรง
"ตอนนั้นน้ำมันลงวันเดียว 15-20 เหรียญ ซึ่งทำให้คนส่วนใหญ่ที่ใช้ Leverage สูงล้มหายตายจากไป แต่การวางกริดของผมที่เตรียมเงินทุนไว้เต็มจำนวน ทำให้เมื่อราคาเกิด 'แก๊ป' (Gap) หรือช่องว่างของราคา ผมจึงมีเงินสดที่ไม่ได้ใช้งานเหลืออยู่ และสามารถนำเงินก้อนนั้นไปช้อนซื้อน้ำมันที่ราคาประมาณ 5 เหรียญ/บาร์เรลได้"
จากการเข้าซื้อในจุดต่ำสุด และการฟื้นตัวของราคาที่เร็วกว่าคาด ทำให้พอร์ตของเขาเติบโตอย่างก้าวกระโดด สร้างกำไรได้ถึงเกือบ 40 ล้านบาท จากเหตุการณ์ครั้งนั้น
กุญแจสู่ความกล้าในการลงทุน
คุณเอ็มเผยปรัชญาการลงทุนที่น่าสนใจว่า เขาแบ่งพอร์ตออกเป็น 2 ส่วนหลัก
พอร์ตหลัก (โรงงาน/โรงพยาบาล): คือพอร์ตที่ใช้กลยุทธ์ Grid Trading กับสินทรัพย์ที่มั่นคงและผันผวนสูงอย่างทองคำและน้ำมัน ทำหน้าที่เป็น "โรงงาน" ผลิตกระแสเงินสด และเป็น "โรงพยาบาล" คอยสนับสนุนทางการเงิน
พอร์ตต่อยอด (Growth Portfolio): นำกระแสเงินสดจากพอร์ตหลักมาลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงขึ้น เช่น หุ้น หรือคริปโตเคอร์เรนซี เพื่อสร้างผลตอบแทนแบบก้าวกระโดด
"พอเรามีโรงพยาบาลส่วนตัว เราก็จะกล้าเทรดในตลาดอื่นมากขึ้น เพราะเราไม่กลัวตาย ถ้าการลงทุนใน Bitcoin เจ๊ง ก็ไม่เป็นไร เรายังมีโรงพยาบาลคอยช่วยให้เรากลับมาสู้ใหม่ได้ นี่คือจุดได้เปรียบที่ทำให้จิตวิทยาการลงทุนของเราดีขึ้น"
กฎเหล็กของ Grid Trading สไตล์ M Trader
คุณเอ็มได้ให้คำแนะนำสำหรับผู้ที่สนใจกลยุทธ์นี้ว่า
เลือกสินทรัพย์ให้ถูก: ต้องเป็นสินทรัพย์ที่มีความผันผวนสูง (High Volatility) เพื่อให้กลยุทธ์ทำงานได้เต็มที่ เช่น ทองคำ, น้ำมัน, หรือคู่เงินบางประเภท
เล่นฝั่ง Long เท่านั้น: การเล่นฝั่งซื้อ (Long) ทำให้บริหารจัดการทุนได้ง่ายที่สุด เพราะความเสี่ยงสูงสุดคือสินทรัพย์มีค่าเป็นศูนย์ ซึ่งสามารถคำนวณเงินทุนที่ต้องใช้ทั้งหมดได้ ต่างจากฝั่งขาย (Short) ที่มีโอกาสขาดทุนไม่จำกัด
อย่าใช้ Leverage เกินตัว: หัวใจสำคัญคือการมีเงินทุนรองรับเต็มจำนวน เพื่อให้สามารถผ่านวิกฤตและมีกระสุนเหลือไปช้อนซื้อของถูกได้
อย่ามอง Balance พอร์ต: การรันกริดจะทำให้พอร์ตมีตัวเลขติดลบ (Floating Loss) อยู่เสมอ ต้องฝึกจิตใจให้ไม่หวั่นไหว และมองที่กระแสเงินสดที่ได้รับแทน
มีมุมมองระยะยาว: กลยุทธ์นี้ไม่เหมาะกับคนที่ต้องการรวยเร็ว แต่เหมาะกับคนที่ต้องการอยู่ในตลาดอย่างยั่งยืนและสร้างความมั่งคั่งไปตลอดชีวิต
"ผมมองว่าผมจะอยู่กับตลาดโดยได้ไปเรื่อยๆ 1-3% ต่อเดือน ผมพอใจ แต่ผมจะได้เปรียบคนอื่นตรงที่มีกระแสเงินสด และมีโรงงานที่ไม่เจ๊ง ตราบใดที่ทองคำกับน้ำมันไม่กลายเป็นศูนย์" คุณเอ็มกล่าวทิ้งท้าย
สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถติดตามแนวคิดและกลยุทธ์ของคุณเอ็ม นิสิต น้อยแจ่ม เพิ่มเติมได้ที่เพจ M Trader
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
