รีเซต

ตาวัย 69 ลั่นเหมือนเกิดใหม่ ดีใจได้ทำบัตรประชาชน 'ครั้งแรก' ในชีวิต

ตาวัย 69 ลั่นเหมือนเกิดใหม่ ดีใจได้ทำบัตรประชาชน 'ครั้งแรก' ในชีวิต
มติชน
2 มิถุนายน 2565 ( 08:47 )
61
ตาวัย 69 ลั่นเหมือนเกิดใหม่ ดีใจได้ทำบัตรประชาชน 'ครั้งแรก' ในชีวิต

แชร์สนั่นโลกโซเชียล ชื่นชมผู้ใหญ่บ้านพาตาวัย 69 ปี ที่เคยพลัดถิ่น เป็นคนพเนจรมานานกว่า 53 ปี โดยพาไปทำบัตรประจำตัวประชาชนครั้งแรกในชีวิต พร้อมพาตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาล และขอรับความช่วยเหลือจากพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์  ด้านคุณตาเผยสุดปลื้มเหมือนตายแล้วเกิดใหม่ 

 

เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน จากกรณีที่ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ นาคินทร์ ภูจ่าพล โพสต์ภาพพร้อมข้อความชายวัย 69 ปี นั่งรถเข็นเข้าไปทำบัตรประชาชนที่ห้องทะเบียน ที่ว่าการอำเภอยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นการถ่ายภาพทำบัตรประชาชนครั้งแรกในชีวิต

 

ทำให้มีผู้เข้ามากดไลค์กดแชร์ แสดงความชื่นชมและแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก ทั้งยังเกิดความสงสัยในประเด็นที่ว่า ทำไมชายวัย 69 ปีคนนี้ เพิ่งจะทำบัตรประชาชนเป็นครั้งแรก ทั้งๆที่ปัจจุบันให้สามารถทำบัตรประจำตัวประชาชนตั้งแต่อายุ 7 ปี จึงถือเป็นเรื่องที่ผิดปกติ ไม่น่าจะเกิดขึ้น และช่วงระยะเวลาที่ผ่านมาไปทำอะไร อยู่ที่ไหน จึงไม่ไปทำบัตรประจำตัวประชาชน ทำให้โลกโซเชียลอยากทราบคำตอบ

 

ผู้ใหญ่บ้านตอบคำถามโซเชียล ทำไมตาถึงมีบัตรปชช.ครั้งแรก

ผู้สื่อข่าวจึงได้ติดต่อไปยังผู้ใช้เฟซบุ๊กดังกล่าว พร้อมกับลงพื้นที่ จึงได้ทราบว่า ผู้โพสต์เป็น ผู้ใหญ่บ้านดอนยานาง หมู่ 9 ต.ดอนสมบูรณ์ อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์

 

นายนาคินทร์ กล่าวว่า กรณีพาลูกบ้านไปทำบัตรประชาชนครั้งแรกในชีวิตนั้น คือ นายชารี อายุ 69 ปี เริ่มจากเมื่อวันที่ 23 พ.ค.65 ที่ผ่านมา น.ส.ทองแดง อายุ 80 ปี พี่สาวนายชารี ได้ไปพบตนที่บ้าน และเล่าว่าเมื่อวันที่ 20 พ.ค.65 ได้มีรถกู้ชีพและเจ้าหน้าที่ของ อบต.หลักเหลี่ยม อ.นามน จ.กาฬสินธุ์ พานายชารี น้องชาย ซึ่งมีสภาพร่างกายอ่อนแอ แขน ขา อ่อนแรง ช่วยเหลือตนเองไม่ได้มาส่งที่บ้าน จึงได้มาขอคำปรึกษา เพื่อหาแนวทางช่วยเหลือและพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น เนื่องจากฐานะยากจน ไม่มีที่ทำกิน อาศัยอยู่บ้านไม้ในซอยลึกกลางหมู่บ้าน ซึ่งมีสภาพเก่าทรุดโทรม

 

ปัจจุบันอยู่กัน 3 คน คือ น.ส.ทองแดง ลูกชายวัย 47 ปี และที่เข้ามาอยู่ร่วมชายคาเดียวกันคือนายชารีน้องชาย อายุ 69 ปี โดยน.ส.ทองแดง มีรายได้จากเบี้ยยังชีพคนชราเดือนละ 800 บาท เบี้ยคนพิการทางสายตา 800 บาท และรายได้จากลูกชายที่ไปหารับจ้างทั่วไป ซึ่งรายได้ต่ำและไม่แน่นอน ตอนนี้ความเป็นอยู่ยิ่งลำบากมากกว่าเดิม เนื่องจากมีสมาชิกเข้ามาอาศัยเพิ่มอีก 1 คน คือนายชารีหลังจากที่หายจากบ้านไปประมาณ 53 ปี

 

นายนาคินทร์ กล่าวอีกว่า พอได้ยิน น.ส.ทองแดงเอ่ยถึงชื่อน้องชายคือนายชารี ทำให้ตนนึกขึ้นได้ว่าสมัยที่ตนยังเป็นเด็ก เคยเห็นนายชารีอยู่ในหมู่บ้าน ก่อนที่จะหายออกจากหมู่บ้านไปหลายปี ซึ่งตนและชาวบ้านทุกคนต่างก็เข้าใจว่าคงจะเป็นบุคคลสูญหาย หรือเสียชีวิตไปแล้ว

 

เมื่อทราบข่าวการกลับมาของนายชารี จึงได้ไปสอบถามข้อเท็จจริง ทราบว่านายชารีออกจากหมู่บ้านเมื่ออายุประมาณ 16 ปี โดยไปหาทำงานรับจ้างทั่วไป เนื่องจากฐานะทางบ้านยากจน พ่อแม่มีลูกถึง 9 คน และไม่มีที่ทำกิน จึงเดินทางออกจากบ้านไปตะเวนหางานทำไปเรื่อยๆ ไม่มีหลักแหล่ง สุดท้ายมาได้ภรรยาที่ ต.หลักเหลี่ยม อ.นามน แต่ไม่มีบุตรด้วยกัน ล่าสุดภรรยาเสียชีวิต 4 เดือนต่อมาประสบอุบัติเหตุหกล้ม แขนขาอ่อนแรง จึงขอความช่วยเหลือจาก อบต.หลักเหลี่ยม นำขึ้นรถกู้ชีพมาส่งที่บ้านเมื่อวันที่ 20 พ.ค.ที่ผ่านมาดังกล่าว

 

นายนาคินทร์ กล่าวเพิ่มเติมว่า เดิมสมัยนั้นประชาชนคนไทยจะได้ถ่ายบัตรประจำตัวประชาชนครั้งแรกเมื่ออายุ 17 ปี เมื่อนายชารีออกจากบ้านตอนอายุ 16 ปี จึงไม่ได้ถ่ายบัตรประจำตัวประชาชน แต่ก็ยังมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน ขณะที่ตัวนายชารีกลายเป็นคนพเนจร เดินทางไปหารับจ้างทั่วไป และไม่เคยกลับมาเยี่ยมบ้านเลย จนญาติและทุกคนในหมู่บ้านเข้าใจว่าเป็นบุคคลสูญหายหรือเสียชีวิตไปแล้ว ซึ่งญาติเองก็ยังไม่ได้แจ้งความคนหายแต่อย่างใด เพราะต่างคนก็ฐานะยากจน แยกย้ายทำมาหากิน ไม่มีทรัพย์สินมรดกที่จะแบ่งสันปันส่วน ระหว่างญาติพี่น้องเหมือนครอบครัวทั่วไป

 

“สาเหตุที่ตนโพสต์ภาพและข้อความดังกล่าวทางเฟซบุ๊ก นอกจากจะโพสต์ตามปกติที่ตนเคยโพสต์เป็นประจำแล้ว ยังอยากจะบอกกล่าวให้สังคมหรือกลุ่มเพื่อนในเฟซบุ๊กได้ทราบว่า ที่นายชารีหายจากหมู่บ้านไปประมาณ 53 ปีนั้น ยังมีชีวิตอยู่และได้กลับมาแล้ว ในสภาพของคนที่เข้าสู่วัยชราและสภาพร่างกายพิการ ไม่ได้มีเจตนาหรือเป็นประเด็นดราม่าอะไร ส่วนใครจะแสดงความคิดเห็นอย่างไร ก็เป็นเรื่องส่วนบุคคล เพราะตนเจตนาบริสุทธิ์และเอาใจใส่กับความเป็นอยู่ของลูกบ้านทุกคน” นายนาคินทร์กล่าว

 

ด้าน นางเสาวคนธ์ ภูสีเหลี่ยม นักพัฒนาชุมชนชำนาญการ กล่าวว่า หลังได้รับประสานจากผู้ใหญ่บ้าน ว่าลูกบ้านรายดังกล่าวเป็นผู้สูงอายุ สภาพร่างกายค่อนข้างพิการ ทางนายก อบต.ดอนสมบูรณ์ และปลัด อบต.ดอนสมบูรณ์ ได้มอบหมาย ให้ตนเข้ามาตรวจสอบ เพื่อนำข้อมูลเข้าระบบและหาแนวทางช่วยเหลือ และยกระดับคุณภาพชีวิต ทั้งในส่วนของสวัสดิการสูงอายุ และช่วยเหลือความพิการ ในการเคลื่อนไหว เช่น จัดหารถเข็น ซึ่งจะได้ประสานงานกับสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.กาฬสินธุ์ ฝ่ายปกครองอำเภอยางตลาด และเหล่ากาชาด จ.กาฬสินธุ์ต่อไป อย่างไรก็ตาม สำหรับการทำบัตรประชาชนครั้งแรกในชีวิตของนายชารีวัย 69 ปี ถือเป็นเรื่องที่สร้างความฮือฮาในพื้นที่มากพอสมควร และเหตุการณ์ลักษณะนี้ไม่เคยปรากฏมาก่อน

 

ขณะที่ นายชารี อายุ 69 ปี เผยว่า เหมือนกับเป็นการชุบชีวิตของตน ที่เคยเป็นคนร่อนเร่พเนจรได้มีหลักแหล่ง เป็นคนไทยที่โดยสมบูรณ์ เหมือนตายแล้วเกิดใหม่ ขอบคุณทุกคนที่มีส่วนช่วยเหลือตนในครั้งนี้

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง