LHFG เผย"ทริสเรทติ้ง"เพิ่มอันดับเครดิตธุรกิจการเงินแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์
#LHFG #ทันหุ้น-บริษัท แอล เอช ไฟแนนซ์เชียล กรุ๊ป จำกัด(มหาชน) หรือ LHFG แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่า กลุ่มธุรกิจทางการเงินแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ได้แก่ บริษัท แอล เอช ไฟแนนซ์เชียล กรุ๊ป จํากัด (มหาชน) (LHFG) และธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จํากัด (มหาชน) (LH Bank) ได้รับการปรับเพิ่มอันดับเครดิตจากบริษัท ทริสเรทติ้ง จํากัด
โดย บริษัท แอล เอช ไฟแนนซ์เชียล กรุ๊ป จํากัด (มหาชน) (LHFG) ได้รับการปรับเพิ่มอันดับเครดิตองค์กรที่ระดับ “A-“ จากเดิมที่ระดับ “BBB+” และเปลี่ยนแนวโน้มอันดับเครดิตเป็ น “Stable” หรือ “คงที่”จาก “Negative” หรื อ “ลบ” โดยทริสเรทติ้งเห็นว่า การปรับเพิ่มขึ้นอันดับเครดิตดังกล่าวเป็นผลจากการประเมินสถานะของ LHFG ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่มีความสําคัญในเชิงกลยุทธ์ของ CTBC Bank ธนาคารเอกชนอันดับ 1 ของไต้หวัน และเป็นบริษัทแม่ของกลุ่มธุรกิจทางการเงินแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ที่ได้รับการจัดอันดับเครดิ ตที่ ระ ดับ “A/Stable” จาก S&P Global Ratings ซึ่ ง LHFG มีบทบาทสำคัญ ในการดําเนินการให้บรรลุเป้าหมายทางกลยุทธ์ของ CTBC Bank ในการที่จะเป็นธนาคารชั้นนําในระดับภูมิภาคในทวีปเอเชีย
ด้านธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จํากัด (มหาชน) (LH Bank) ได้รับการปรับเพิ่มอันดับเครดิตองค์กรที่ระดับ “A” จากเดิมที่ระดับ “A-“ และปรับเพิ่มอันดับเครดิตหุ้นกู้ด้อยสิทธิลักษณะคล้ายทุนที่นับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 2 เป็นระดับ “BBB+” จากเดิมที่ระดับ “BBB” และเปลี่ยนแนวโน้มอันดับเครดิตเป็ น“Stable” หรือ “คงที่” จาก “Negative” หรือ “ลบ” โดยทริสเรทติ้งเห็นว่า LH Bank เป็นบริษัทในกลุ่มธุรกิจทางการเงินแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ที่สร้างกําไรมากที่สุด คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 70% ของกําไรสุทธิของกลุ่มในปี 2565 และขนาดสินทรัพย์รวมของ LH Bank คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 95% ของสินทรัพย์รวมของLHFG โดยมีสินทรัพย์จํานวน 2.96 แสนล้านบาท ณ สิ้นปี 2565 เพิ่มขึ้น 17% เมื่อเทียบกับสิ้นปี 2564และมีอัตราส่วนค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL Coverage Ratio) อยู่ที่ 221% ณ สิ้นปี 2565 สูงกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมที่อยู่ที่ 172%
นอกจากนี้ ธนาคารมีการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตสินเชื่อไปยังกลุ่มวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) และกลุ่มรายย่อยมากขึ้น และสามารถระดมเงินฝากจากลูกค้ารายย่อยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องมาอยู่ที่ระดับ 59% ของเงินฝากทั้งหมด ณ สิ้นปี 2565จากระดับ 54% ณ สิ้นปี 2563 สําหรับความสามารถในการทํากําไร ธนาคารมีอัตราส่วนผลตอบแทนต่อสินทรัพย์รวมถัวเฉลี่ย (Return on Average Assets – ROAA) อยู่ที่ 0.40% ในปี 2565 เพิ่มขึ้นจาก 0.28%ในปี 2564 และมีอัตราผลตอบแทนสินทรัพย์ที่ก่อให้เกิดรายได้สุทธิ(NIM) ที่ดีขึ้นอยู่ที่ 2.27% จาก 2.25% ในปี 2564 รวมทั้งได้ประเมินสถานะสภาพคล่องจัดให้อยู่ในระดับที่เพียงพอ โดยอัตราส่วนสินทรัพย์สภาพคล่อง เพื่อรองรับสถานการณ์ด้านสภาพคล่องที่มีความรุนแรง (Liquidity Coverage Ratio – LCR) อยู่ที่ระดับ 132% ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2565 สูงกว่าเกณฑ์ขั้นตํ่าที่ ระดับ 100%
และทริสเรทติ้ง เห็นว่า LH Bank มีมีการลงทุนอย่างต่อเนื่อง เพื่อยกระดับขีดความสามารถในด้านดิจิทัล ซึ่งเป็นพัฒนาการที่ดีขึ้นโดยเทคโนยีใหม่ที่ LH Bank เปิดตัวเมื่อเร็วๆ นี้ คือแอปพลิเคชันให้บริการทางการเงิน “LHB You” และแอปพลิเคชันให้บริการทางการลงทุน “Profita”
นายฉี ชิง-ฟู่ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอล เอช ไฟแนนซ์เชียล กรุ๊ป จํากัด (มหาชน) เปิดเผยว่า การที่บริษัท ทริสเรทติ้ง จํากัด ได้ปรับเพิ่มอันดับเครดิตองค์กรของกลุ่มธุรกิจทางการเงินแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ สะท้อนให้เห็นมุมมองเชิงบวกในศักยภาพด้านการดําเนินงานด้านดิจิทัล และด้านความแข็งแกร่งของฐานะการเงิน ในการแข่งขันและยกระดับการดําเนินงานที่ดีในอนาคต