LHFGกำไรQ1/67ดิ่ง 40%ที่399ลบ.-ตั้งสำรองเพิ่ม8.1%
#LHFG#ทันหุ้น-LHFG ไตรมาส1/67กำไรสุทธิ ดิ่ง 40.4%อยู่ที่ 399.19 ล้านบาท เหตุรายได้เงินปันผลลด ด้านรายได้ดอกเบี้ยสุทธิวูบ6.5% พร้อมตั้งสำรองเพิ่ม8.1%ที่ 526 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันปีก่อน
นายฉี ชิง ฟู่ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอล เอช ไฟแนนซ์เชียล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)หรือ LHFG เปิดเผยว่า ธนาคารมีกำไรสุทธิไตรมาส1/2567 ที่ 399.19 ล้านบาท ลดลง40.4% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 669.86 ล้านบาท เป็นนผลจากการลดลงของรายได้เงินปันผล
ขณะที่รายได้ดอกเบี้ยสุทธิ ไตรมาส1/2567 อยู่ที่ 1,698.9 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 6.5 เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 4 /2566 และเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.3 เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 1/2566โดยรายได้ดอกเบี้ยไตรมาสที่ 1/ 2567 จํานวน 3,264.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 19.4 และค่าใช้จ่าย ดอกเบี้ย จํานวน 1,565.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 50.5 เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 1/ 2566
ส่วนรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยสุทธิ ไตรมาสที่ 1/2567 รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยสุทธิจํานวน 369.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 13.1 เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 4/2566 ส่วนใหญ่เป็นการเพิ่มขึ้นของกําไร (ขาดทุน) สุทธิจากเครื่องมือทางการเงินที่วัดมูลค่าด้วยมูลค่ายุติธรรมผ่านกําไรหรือขาดทุน และลดลงร้อยละ 28.2 เมื่อเทียบกับ ไตรมาสที่ 1/2566 ส่วนใหญ่เป็นการลดลงของรายได้เงินปันผล
ด้านผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในไตรมาส1ปี 2567 ที่ 526.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.1% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ 487.3 ล้านบาท แต่ลดลง 8.7% หากเทียบกับไตรมาส4 ปี 2566ที่ 576.6 ล้านบาท
ณ วันที่ 31 มีนาคม 2567 เงินให้สินเชื่อสุทธิจากรายได้รอตัดบัญชีและผลกําไรหรือขาดทุน จากการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขใหม่ (รวมรายการระหว่างธนาคารและตลาดเงิน) จํานวน 256,423.8 ล้านบาท ลดลง 10,923.6 ล้านบาท หรือลดลงร้อยละ 4.1 เมื่อเทียบกับสิ้นปี 2566
เงินรับฝาก ณ วันที่ 31 มีนาคม 2567 เงินรับฝากจํานวน 245,309.4 ล้านบาท ลดลง 6,144.0 ล้านบาท หรือ ลดลง 2.4 เมื่อเทียบกับสิ้นปี 2566 เงินรับฝากส่วนใหญ่เป็นเงินรับฝากประเภทจ่ายคืน เมื่อสิ้นระยะเวลา คิดเป็นร้อยละ 59.9 และเงินฝากออมทรัพย์ คิดเป็นร้อยละ 22.4 ของเงินฝากรวม
ณ วันที่ 31 มีนาคม 2567 สินเชื่อที่มีการด้อยค่าด้านเครดิต (Gross) จํานวน 7,088.0 ล้านบาท เพิ ่มขึ ้น 789.2 ล้านบาท หรือเพิ ่มขึ ้นร้อยละ 12.5 เมื่อเทียบกับสิ้นปี 2566 อัตราสินเชื่อที่มีการด้อยค่าด้านเครดิตต่อสินเชื่อรวมคิดเป็นร้อยละ 2.76 ของเงินให้สินเชื่อรวม (รวมรายการระหว่างธนาคารและตลาดเงิน) เมื่อเทียบกับสิ ้นปี 2566 ที่อยู่ที่ร้อยละ 2.36