รีเซต

คปภ.เข้มดูแลธุรกิจประกัน จับตาการลงทุนหวังคุมเสี่ยง

คปภ.เข้มดูแลธุรกิจประกัน จับตาการลงทุนหวังคุมเสี่ยง
ทันหุ้น
28 มีนาคม 2568 ( 12:41 )
10

#คปภ. #ทันหุ้น - คปภ.เปิดรับฟังความคิดเห็นภาคธุรกิจในการเข้ากำกับดูแลประกันภัยแบบกลุ่มธุรกิจ หลังภาคธุรกิจปรับโครงสร้างองค์กรสู่โฮลดิ้งมากขึ้น ทั้งการเข้าไปลงทุนในบริษัทลูก ทั้งการลงทุนโดยทางอ้อม เป้าหมายเพื่อดูแลความแข็งแกร่ง และแสกนความเสี่ยงของภาคธุรกิจ


นายชูฉัตร  ประมูลผล เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (เลขาธิการ คปภ.) เปิดเผยว่า คปภ. มีแผนยกระดับการกำกับดูแลธุรกิจประกันภัยในประเทศไทย โดยมุ่งเน้นการกำกับดูแลแบบรวมกลุ่ม (Group - Wide Supervision) ตามหลักการประกันภัย (Insurance Core Principles : ICPs)  เพื่อให้สอดคล้องกับบริบทในปัจจุบันที่บริษัทประกันภัยมีการจัดตั้งเป็นกลุ่มธุรกิจ และขยายการลงทุนไปในธุรกิจอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อสร้างอัตราผลตอบแทนที่สูงขึ้น


โดยได้มอบหมายให้สายกำกับธุรกิจและการลงทุน เดินหน้าศึกษาหลักเกณฑ์จากหน่วยงาน กำกับดูแลภาคการเงินและการประกันภัยทั้งในและต่างประเทศ เพื่อนำมากำหนดเกณฑ์ในการดูแลแบบรวมกลุ่ม


*กำกับดูแลรวมกลุ่ม

นายชูฉัตร กล่าวว่า การกำกับดูแลแบบรวมกลุ่ม ในระยะเริ่มแรกได้มีการแบ่งออกเป็น 2 ระดับ คือ ระดับแรก Solo Consolidation ประกอบด้วย บริษัทประกันภัย และบริษัทลูก ที่ถือหุ้นตั้งแต่ร้อยละ 20 ขึ้นไป โดยจะมีการกำกับดูแลในหลักการเดียวกับบริษัทประกันภัย ซึ่งช่วยให้สามารถติดตามตรวจสอบประสิทธิภาพการดำเนินงานได้อย่างใกล้ชิด


และระดับที่2  Full Consolidation ประกอบด้วย บริษัทแม่สูงสุด และนิติบุคคลที่บริษัทมีอำนาจควบคุมหรือถือหุ้นโดยตรง หรือโดยอ้อมตั้งแต่ร้อยละ 20 ขึ้นไป รวมถึงบริษัทร่วมและบริษัทลูกทั้งหมด


หากบริษัทแม่เป็นนิติบุคคลต่างประเทศ หรืออยู่ภายใต้การกำกับดูแลของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) หรือสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (สำนักงาน ก.ล.ต.) สำนักงาน คปภ. จะใช้ Supervisory College ในการกำกับดูแลเพื่อหลีกเลี่ยงการซ้ำซ้อน


การกำกับดูแลธุรกิจประกันภัยแบบรวมกลุ่ม ไม่เพียงแต่จะช่วยให้การบริหารความเสี่ยงที่ดีขึ้นเท่านั้น แต่ยังช่วยให้มีธรรมาภิบาล ที่ดีและการควบคุมภายในที่มีความเข้มแข็งสำหรับการดำเนินธุรกิจทั้งกลุ่มธุรกิจประกันภัย ซึ่งจะนำไปสู่อุตสาหกรรมที่มีเสถียรภาพ ทางการเงินดีขึ้น และส่งผลดีต่อการคุ้มครองผู้บริโภคอย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากการบริหารความเสี่ยงที่มีคุณภาพจะช่วยคุ้มครองผู้เอาประกันภัยจากความเสี่ยงทางการเงินที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต


*ต้องรายงานธุรกรรมการลงทุน

โดยหลักการกำกับดูแลแบบรวมกลุ่ม ในระดับ Solo Consolidation ประกอบด้วยการกำหนดนิยามและหลักเกณฑ์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับบริษัทแม่ บริษัทลูก บริษัทร่วม และกลุ่มธุรกิจประกันภัยที่ประกอบธุรกิจระหว่างประเทศอย่างมีนัย (Internationally Active Insurance Groups : IAIGs รวมถึงกำหนดให้บริษัทประกันภัยรายงานธุรกรรมการลงทุนระหว่างบริษัทประกันภัยและบริษัทลูกภายใน 72 ชั่วโมง หรือเมื่อเกิดธุรกรรมโดยเร็ว (Use and File) ซึ่งหลักการดังกล่าวได้มีการรับฟังความคิดเห็นจากภาคธุรกิจประกันภัยมาเรียบร้อยแล้ว โดยไม่มีความเห็นโต้แย้งต่อภาพรวมของหลักการ


คปภ. อยู่ระหว่างดำเนินการเพื่อให้หลักเกณฑ์การกำกับดูแลแบบรวมกลุ่มในระดับ Solo Consolidation มีผลบังคับใช้ โดยจะมีการรับฟังความคิดเห็นจากภาคธุรกิจเกี่ยวกับการกำกับดูแลกิจการที่ดี ธรรมาภิบาล การบริหารความเสี่ยงแบบองค์รวมและ การประเมินความเสี่ยงและความมั่นคงทางการเงิน รวมถึงการควบคุมภายในสำหรับกลุ่มธุรกิจ และแบบรายงาน โดยระยะต่อไปจะหารือกับหน่วยงานการกำกับดูแลภาคการเงินและภาคการประกันภัยทั้งในและต่างประเทศเพิ่มเติม เพื่อกำหนดหลักการกำกับดูแลในระดับ Full Consolidation ให้แล้วเสร็จภายในปี 2569 ซึ่งจะช่วยให้ธุรกิจประกันภัยในประเทศไทยมีความเข้มแข็ง มีเสถียรภาพ และเติบโตอย่างยั่งยืน

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง