อุทาหรณ์! มิจฉาชีพลวงครึ่งหมู่บ้าน “เปิดบัญชีม้า” อ้างตั้งพรรคการเมือง
วานนี้ ( 1 เม.ย. 66 ) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ จ.นครพนม ภายหลังมีการบังคับใช้กฎหมายใหม่ พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ.2566 มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2566 ที่ผ่านมา ทำให้ประชาชนในพื้นที่เป้าหมาย อ.นาแก อ.ธาตุพนม อ.ปลาปาก อ.เรณูนคร และ อ.วังยาง ยังคงทยอยเดินทางไปปิดบัญชี ตามธนาคารกสิกรไทย สาขาต่างๆ เนื่องจากกลัวความผิด หลังจากมีชาวบ้านบางราย พบข้อมูลว่า ถูกหลอกนำเอกสารหลักฐานภาพถ่ายหน้าตรง พร้อมบัตรประชาชน ไปเปิดบัญชีม้า พร้อมได้ค่าจ้าง รายละ 400 บาท ทำให้กลัวความผิดทางกฎหมายที่จะตามมา
โดยก่อนนี้ ตั้งแต่ปลายปี 2565 ได้มีนายหน้า มาตระเวนหลอกชาวบ้าน เสนอค่าจ้าง นำเอกสารไปเปิดบัญชีม้า อ้างว่า จะนำไปเป็นสมาชิกตั้งพรรคการเมือง อีกบางส่วนอ้างว่าจะนำไปเบิกงบประมาณจากกรมชลประทาน ทำให้ชาวบ้านหลงเชื่อ และหวังค่าจ้าง โดยไม่คิดว่าจะมีการนำเอกสารหลักฐานไปเปิดบัญชีม้าภายหลัง โดยจากการตรวจสอบของหน่วยงานเกี่ยวข้อง พบผู้เสียหายที่ตกเป็นเหยื่อ ไม่ต่ำกว่า 3,000 ราย พร้อมประชาสัมพันธ์ให้ออกมาแสดงตัว และยื่นของปิดบัญชี
ล่าสุดจากการลงพื้นที่ตรวจสอบของผู้สื่อข่าว พบว่ามีบางหมู่บ้าน หลงเชื่อตกเป็นเหยื่อเกือบทั้งหมู่บ้าน เช่นเดียวกับชาวบ้าน วังยาง หมู่ 5 ต.ท่าลาด อ.เรณูนคร จ.นครพนม ถูกนายหน้าตระเวนเสนอค่าหัวรายละ 400 บาท เพื่อขอภาพถ่ายหน้าตรงคู่กับบัตรประชาชน อ้างว่าจะนำไปตั้งพรรคการเมือง สุดท้ายมีการตรวจสอบพบว่านำไปเปิดบัญชีธนาคารกสิกรไทย สาขาต่างๆ ทั่วประเทศ รวมกว่า 100 ราย จากทั้งหมู่บ้าน มี 200 หลังคาเรือน ภายหลังทำให้ชาวบ้านเดินทางมาลงชื่อยืนยันตัวตนกับทางผู้นำชุมชนท้องถิ่น เพื่อขอรับการช่วยเหลือยื่นเอกสารปิดบัญชี ป้องในมิจฉาชีพนำไปกระทำผิดกฎหมาย
ด้าน นายวายันต์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่5 บ้านวังยาง ต.ท่าลาด อ.เรณูนคร จ.นครพนม เปิดเผยว่า ก่อนนี้ไม่ทราบมาก่อนว่า มีนายหน้าออกมาตระเวนจ้างชาวบ้านหัวละ 400 บาท เพื่อนำเอกสารไปเปิดบัญชี มาทราบปัญหาภายหลังมีบางรายไปตรวจสอบพบว่าตนเองมีบัญชีธนาคาร จนรู้ที่มาว่าเกิดจากนายหน้าที่นำเอกสารหลักฐานสำคัญไปลอบเปิดบัญชี จึงแห่มายืนยันตัวตนแสดงความบริสุทธิ์ใจ และขอใความช่วยเหลือจากภาครัฐผ่านผู้ใหญ่บ้า
น โดยสอบถามส่วนใหญ่นายหน้ากลุ่มนี้จะอ้างนำเอกสารไปเป็นสมาชิกพรรคการเมือง แต่มีการแอบนำเอกสารไปเปิดบัญชีธนาคาร ส่วนใหญ่เป็นธนาคารกสิกรไทย และตรวจสอบยังไม่พบมีการเคลื่อนไหวของบัญชี แต่มีบางรายที่มีเงินผ่าน แต่ชาวบ้านไม่กล้าออกมาแจ้งความเอาผิดกับนายหน้า เพราะกลัวความผิด เนื่องจากยินยอมรับเงินค่าจ้าง เพียงออกมายืนยันตัวตนที่จะขอปิดบัญชี ป้องกันความผิดฐานเปิดบัญชีม้า จึงได้รวบรวมเอกสารเพื่อไปยื่นต่อธนาคารต่อไป
ทั้งนี้ ในส่วนของ นายวันชัย จันทร์พร ผวจ.นครพนม ได้สั่งการให้ ทุกอำเภอมีการตรวจสอบ ช่วยเหลือชาวบ้าน ที่ถูกหลอก พร้อมปราสัมพันธ์ ผ่านผู้นำชุมชนท้องถิ่น ให้มายืนยันตัวตนแสดงความบริสุทธิ์ใจ ดำเนินการปิดบัญชี ไม่ให้เกิดความผิดภายหลัง พร้อมมอบหมายให้ตำรวจ เร่งสืบสวนติดตามเอาผิดนายหน้า ที่มาหลอกชาวบ้านนำเอกสารไปเปิดบัญชี แต่ส่วนใหญ่ยังไม่สามารถดำเนินคดีกับนายหน้าได้ เนื่องจากบัญชียังไม่มีความเคลื่อนไหว และยังไม่มีชาวบ้านตกเป็นผู้เสียหาย ส่วนบางรายที่บัญชีเคลื่อนไหว แต่ไม่กล้าออกมาแจ้งความดำเนินคดีกับนายหน้า เพราะเป็นการสมยอม เพียงออกมาขอความช่วยเหลือจากภาครัฐให้ช่วยเหลือเรื่องปิดบัญชีป้องกันจะเปิดความผิดภายหลัง โดยทางจังหวัดได้แจ้งเตือนให้ประชาชนในพื้นที่อย่าหลงเชื่อ และอาจจะตกเป็นเหยื่อบัญชีม้า
ข้อมูลจาก : ผู้สื่อข่าวภูมิภาคจังหวัดนครพนม
ภาพจาก : ผู้สื่อข่าวภูมิภาคจังหวัดนครพนม